วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผลบอล : กระทิง2-1ทะลุ16ทีมชนฝอยทอง!ส่งชิลีตัดบราซิล


ผลบอล : กระทิง2-1ทะลุ16ทีมชนฝอยทอง!ส่งชิลีตัดบราซิล
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2010 นัดสุดท้าย กลุ่มเอช
สเปน 2 – ชิลี 1

“กระทิงดุ” สเปน ลงสนามนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม พบกับ ชิลี เกมนี้ สเปน มีเงื่อนไขเข้ารอบโดยต้องชนะสถานเดียว ขณะที่ ชิลี เพียงแค่เอาผลเสมอได้ก็จะเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มทันที หลังจาก 2 นัดแรกชนะรวด

เริ่มเกม สเปน ในชุดน้ำเงินแปลกตาออกตัวอย่างคึกคัก และเพียง 3 นาที ชาบี เอร์นานเดซ ก็มาเปิดฟรีคิกให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส โขก แต่บอลลอยข้ามคาน ถัดมา 1 นาที โจน คัปเดบิญ่า วางบอลยาวจากแบ็กซ้ายตัดครอสเข้ากลางมาถึงระยะ 20 หลาจากหน้าประตูให้ ตอร์เรส ควบเต็มสตีมมายิง แต่จังหวะยิง แนวรับชิลี แซะเสียจังหวะ ทำให้บอลเหินออกไปอีก

พอโดนทักทายหลายๆที ชิลี เริ่มตอบโต้บ้าง นาทีที่ 10 ชิลี ฆวน บัวเซฮูร์ สปีดหลุดขึ้นมาทางขวา แล้วตวัดเร็วมาหน้าประตูให้ มาร์ค กอนซาเลซ แต่จังหวะยิงบอลย้อนหลังไปนิดมาเข้าเท้าขวาข้างไม่ถนัด บอลข้ามคาน

จากนั้น รูปเกมยังเป็น สเปน ที่ดีกว่าจนทีมจากอเมริกาใตต้องงัดลูกหนักมาไล่ตัดเกมแข้ง “กระทิงดุ” จนโดนใบเหลืองกันไปถึง 3 คนในช่วง 20 นาที

แต่ทว่านาทีที่ 25 สเปน ก็มาได้ประตูออกนำจนได้เมื่อ ดาบิด บีญ่า ลงไปล้วงบอลจากฝั่งซ้ายตรงกึ่งกลางสนามก่อนจะวางยาวให้ ตอร์เรส ควบไปเอาก่อนถึงเส้น 18 หลา แต่เป็น เคลาดิโอ บราโว่ ผู้รักษาประตูอ่านเกมวิ่งมากวาดก่อน แต่ไม่ขาดบอลหลุดเลยมาถึง บีญ่า ที่เติมขึ้นมาหวดตูมเดียวกลับไปที่ตาข่ายอันว่างเปล่าด้วยซ้ายจากระยะ 40 หลา ส่งบอลโค้งตกพื้นเข้าสู่ก้นตาข่ายเข้าไป 1-0

เกมเริ่มเนือยลงไปนิดๆ จนมาถึงนาทีที่ 35 “กระทิงดุ” เกือบโดนตีเสมอจาก ฆวน บัวเซฮูร์ ที่ได้บอลหลุดมาทางซ้าย แล้วได้เจอกับ กาซียาส ที่รีบปรี่มาปิดมุม แต่จังหวะชิพของกองหน้าชิลีโดน ปิเก้ วิ่งเข้ามาบีบเร็ว ทำให้บอลเข้าข้างตาข่าย

แล้วก็เข้าสูตร มีโอกาสทำไม่ได้ก็โดนลงโทษ เพราะ 2 นาทีต่อมา สเปน ก็มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ อิเนียสต้า พาบอลลากจากขวา ก่อนจะจ่ายตัดไปทางซ้ายให้ บีญ่า ลากไปก่อนจะจ่ายหักกลับมาให้ อิเนียสต้า แปเล่นทางด้วยขวา 2-0

แต่เท่านั้นไม่พอ ชิลี ยังต้องมาซวยสุดๆ ชนิด 2 เด้งกันไปเลย เพราะมาร์โก เอสตราด้า มาโดนไล่ออก เมื่อโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นแดง จากจังหวะก่อนหน้าที่ตีคู่ไปกับ ตอร์เรส ในช่วงที่ อิเนียสต้า ลากบอลขึ้นมาจังหวะแรก ก่อนจะวิ่งตัดไปขัดขา ตอร์เรส นิดเดียวล้มลง ซึ่งจากภาพช้าจะเห็นว่าแนวรับชิลีพยายามมองตามบอล โดยที่วิ่งแซงหน้า ตอร์เรสไปแล้ว ชิลี เหลือสิบคน

ท้ายครึ่งแรก สเปน เล่นบอลง่ายกว่าเดิม เนื่องจากตัวมากกว่า แต่ก็ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้จนหมด 45 นาทีแรก “กระทิงดุ” ยังนำ ชิลี อยู่ 2-0
มาต่อครึ่งหลัง ชิลี แก้เกมด้วยเปลี่ยนตัวสองราย โรดริโก้ มิลล่าร์ และเอสเตบัน ปาเรเดส ลงมาแทนวัลวิเดีย และมาร์ค กอนซาเลซ และเพียง 2 นาทีก็ได้ผล เมื่อมิลล่าร์ ได้บอลนอกเขตโทษระยะ 20 หลา ก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวา บอลไปแฉลบ ปิเก้ เปลี่ยนทิศชนิดที่ กาซียาส หลงทาง ชิลี ไล่คืนเร็ว 1-2

นาทีที่ 52 ดาบิด บีญ่า สบโอกาสสับไก แต่ยังไม่ผ่านมือเคลาดิโอ บราโว่ ถัดมา 2 นาที สเปน แก้เกมด้วยการส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงมาแพ็คกลาง แล้วถอด เฟร์นานโด ตอร์เรส ออก

จากนั้น รูปเกมชักอึดอัด และอยู่บริเวณกลางสนามเสียเป็นส่วนใหญ่ โดย สเปน เป็นฝ่ายครองบอล ขณะที่ ชิลี ที่ตัวผุ้เล่นน้อยกว่าลงมาแพ็คเกมรับให้แน่น แล้วรอสวนกลับ โดยจะต้องมาอาศัยจังหวะยิงไกล แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ กาซียาส และบราโว่

ท้ายเกม รูปเกมเริ่มช้ากว่าเดิม เนื่องจากอาจจะกลัวพลาด และเหมือนกับทั้งสองทีมจะรู้ว่า อีกคู่ในสายระหว่าง สวิตฯ-ฮอนดูรัส ยังไม่สกอร์เกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากจบด้วยสกอร์แบบนี้ ทั้งสองทีมจะเข้ารอบ 16 สุดท้ายทั้งคู่ เนื่องจากทีมจากแดน “นาฬิกา” ต้องชนะสองลูกขึ้นไป หากคู่นี้ยังคงอยู่ที่ 2-1 จนกระทั่งหมดเวลา สเปน เอาชนะ ชิลี ไปได้ 2-1 ผ่านเข้ารอบไปทั้งคู่ โดยที่ “กระทิงดุ” จะพบ โปรตุเกส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน ชิลี พบกับ บราซิล

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปน : อิเคร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, คาร์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปิเก้, โจน คัปเดบิญ่า, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ดาบิด บีญ่า, อันเดรส อิเนียสต้า


ชิลี : เคลาดิโอ บราโว่, เมาริซิโอ อิสล่า, แกรี่ เมเดล, วัลโด้ ปอนเซ่, กอนซาโล่ ฆาร่า, อาร์ตูโร่ วิดัล, มาร์โก เอสตราด้า, มาร์ค กอนซาเลซ, ฮอร์เก้ วัลดิเวีย, ฆวน บัวเซฮูร์, อเล็กซิส ซานเชซ
ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/34296.html

แท็ก : chile, spain, World Cup, ชิลี, ฟุตบอล, ฟุตบอลโลก, สเปน

โผรอบKO บราซิล-ดัตช์!ลุ้นถึงชิง อังกฤษ-อาร์เจน-สเปนหืด


โผรอบKO บราซิล-ดัตช์!ลุ้นถึงชิง อังกฤษ-อาร์เจน-สเปนหืด
โผการแข่งขันรอบ น็อกเอาท์ (Knockout) บราซิล และฮอลแลนด์ ทางใส นำทัพกลุ่มซ้ายทางใส มีลุ้นถึงชิงศึก ฟุตบอลโลก 2010 แต่อาจต้องตัดกันก่อนในรอบ 8 ทีม

หลังจากจบการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มจบลงไป โปรแกรม ฟุตบอลโลก 2010 รอบน็อกเอาต์ก็ถูกวางโผออกมาตามอันดับของแต่ละกลุ่ม โดยกลุ่มทางซ้ายล่างมี 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง บราซิล และฮอลแลนด์ ที่เป็นทีมเต็ง และมีลุ้นยาวถึงชิง แต่ทว่าก่อนหน้านั้น “อัศวินสีส้ม” ต้องผ่าน สโลวาเกีย ที่ล้ม อิตาลี ตกรอบให้ได้ก่อนในรอบ 16 ทีม ขณะที่ “แซมบ้า” ต้องผ่าน ชิลี ทีมเพื่อนร่วมทวีปให้ได้ เพื่อมาตัดกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ส่วนกลุ่มซ้ายบนที่จะเตะกันก่อนหาทีมที่ดีที่สุดในโซนนี้มาเตะรอบรองชนะเลิศกับโซนซ้ายล่างมี สหรัฐอเมริกา, อุรุกวัย, เกาหลีใต้ และกาน่า ร่วมชิงชัยพื้นที่หนึ่งเดียว และในรายชื่อเหล่านี้จะมีเพียง 1 เท่านั้นที่จะถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย

ขณะที่โซนที่ดุเดือดที่สุดน่าจะเป็นโซนขวาบน เพราะมีทั้ง อังกฤษ ที่จะพบกับ เยอรมัน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และจะมาพบผู้ชนะคู่ อาร์เจนติน่า กับเม็กซิโก

ทางด้านโซนขวาล่างเองนั้น ญี่ปุ่น อีกหนึ่งจากเอเชียจะต้องดวล ปารากวัย ในรอบ 16 ทีม และถ้าผ่านจากรอบนี้ยังต้องเผชิญหน้าทีมใหญ่อย่าง สเปน หรือไม่ก็ โปรตุเกส เพื่อหา 1 ทีมเข้าสู่รอบรองฯต่อไป

ประกบคู่น็อกเอาท์รอบ 16 ทีม และ 8 ทีมสุดท้าย

โซนซ้ายบน) ผู้ชนะระหว่าง อุรุกวัย หรือ เกาหลีใต้ พบกับผู้ชนะระหว่าง สหรัฐอเมริกา หรือ กาน่า
(โซนซ้ายล่าง) ผู้ชนะระหว่าง ฮอลแลนด์ หรือ สโลวาเกีย พบกับผู้ชนะระหว่าง บราซิล หรือ ชิลี

(โซนขวาบน) ผู้ชนะระหว่าง เยอรมัน หรือ อังกฤษ พบกับผู้ชนะระหว่าง อาร์เจนติน่า หรือ เม็กซิโก
(โซนขวาล่าง) ผู้ชนะระหว่าง ปารากวัย หรือ ญี่ปุ่น พบกับผู้ชนะระหว่าง สเปน หรือ โปรตุเกส

สำหรับโปรแกรมรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะลงแข่งขันตั้งแต่คืนวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ (เริ่มคู่แรกคืนนี้) อุรุกวัย-เกาหลีใต้ 21.00 น.
ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/34325.html


แท็ก : กาน่า, ชิลี, ญี่ปุ่น, บราซิล, ปารากวัย, ฟุตบอลโลก, สหรัฐอเมริกา, สเปน, สโลวาเกีย, อังกฤษ, อาร์เจนตินา, อุรุกวัย, ฮอลแลนด์, เกาหลีใต้, เม็กซิโก, เยอรมัน, โปรตุเกส

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กรรมการสาวสุด”sexy”


กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010
เนื่องจากฟุตบอลโลกคราวนี้มีใบเหลือง ใบแดง แจกกันเยอะเหลือเกิน ขนาดแค่ในรอบแบ่งกลุ่ม ก็นับกันไม่ไหวแล้ววันนี้ ติช เต ฉ่อ เลยจัดกรรมการสาวหน้าใหม่ของฟีฟ่า ที่มีหน้าตาและรูปร่างสุด “sexy” มาให้ได้ดูกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำให้จะทำให้นักฟุตบอลได้ ใบเหลือง ใบแดง มากหรือน้อยลงกันแน่

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

กรรมการสาวสุด”sexy” World Cup 2010 Sexy Girls ภาพเซ็กซี่ชุดฟุตบอลโลกปี 2010

ที่มา http://sport.mthai.com/sexy-g-sport/33531.html

ผลบอล : สเปนเข่นฮอนดูรัสนิ่มแข้ง2-0 บีญ่า เหมา


ผลบอล : สเปนเข่นฮอนดูรัสนิ่มแข้ง2-0 บีญ่า เหมา
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2010 นัดที่ 2 กลุ่มเอช
สเปน 2 – ฮอนดูรัส 0

“กระทิงดุ” สเปน ที่นัดแรกพ่ายให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1 มาเกมนี้ต้องชนะสถานเดียว หากหวังเข้ารอบต่อไป โดยบิเซนเต้ เดล บอสเก้ ปรับทัพเพียงตำแหน่งเดียวส่งเฆซุส นาบาส ลงเป็นตัวจริง ขณะที่ ฮอนดูรัส หากแพ้เกมนี้ก็จะตกที่นั่งลำบากทันที

เริ่มเกม สเปน เป็นฝ่ายบุกกดดันตั้งแต่แรกทันที นาทีที่ 5 ดาวิด บีญ่า จ่ายบอลให้กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ยิงไม่ตรงกรอบ ถัดมา 1 นาที “กระทิงดุ” เกือบได้ประตูออกนำเร็ว แต่จังหวะส่องไกลของ บีญ่า บอลไปชนคานเต็มๆ กระดอนออกมา

สเปน ยังเล่นได้อย่างคึกคัก นาทีที่ 11 ชาบี เอร์นานเดซ เปิดลูกเตะมุมมาให้ เซร์คิโอ รามอส ขึ้นโหม่งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย แต่อีก 6 นาทีต่อมา สเปน ก็มาออกนำจนได้เมื่อ ดาบิด บีญ่า ได้จังหวะลากปหวกแนวรับ ฮอนดูรัส ขึ้นมา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าหาประตู แล้วล้มตัวยิงด้วยขวาผ่านมือ โนเอล วายาดาเรส 1-0

พอได้ประตูนำ สเปน ยังคงบุกต่อเนื่อง เพราะกลุ่มนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ต้องวัดการเข้ารอบด้วยประตูได้-เสีย แต่แนวรับ ฮอนดูรัส ยังช่วยกันสกัดกั้นไว้ได้ดี ขณะที่จังหวะสุดท้ายของ สเปน ก็ขาดๆเกินๆไปเอง

นาทีที่ 33 เซร์คิโอ รามอส ได้จังหวะเปิดบอลจากกราบขวาให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ขึ้นโขก แต่บอลเด้งพื้นข้ามคาน ถัดมานาน ตอร์เรส ได้จังหวะสับไกเต็มแรงอีก แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล จากนั้น รูปเกมเป็น สเปน ที่ขึงเกมลุยแหลก แต่ ฮอนดูรัส ยังไม่เพลี่ยงพล้ำพเสียประตูที่สองให้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก สเปน ยังนำอยู่ 1-0

มาต่อครึ่งหลัง สเปน ที่เปิดฉากบุกตั้งแต่ตี 1 ครึ่ง (ตามเวลาเมืองไทย) ยังเดินเครื่องยำใหญ่ใส่ ฮอนดูรัส ตามเดิม จนกระทั่งนาทีที่ 51 เฆซุส นาบาส ลุยขึ้นมาเปิดให้ ดาวิด บีญ่า จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วยิงจากระยะ 20 หลาไปโดน ออสมัน ชาเวซ แฉลบเปลี่ยนทาง ส่งบอลเหินข้ามมือผู้รักษาประตู ฮอนดูรัส เข้าประตูเป็น 2-0

สเปน ยังเดินเกมต่อ หลังจาก ฮอนดูรัส หยิบบอลมาเขี่ยเริ่มเกมใหม่ แต่ถัดมาไม่นาน เซร์คิโอ รามอส ได้จังหวะลากบอลเข้ากลาง ก่อนจะฉีดยา ส่งบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว แต่นาทีที่ 61 สเปน มาได้ลุ้นประตูเพิ่มเมื่อ เอมิลิโอ อีซากีร์เร่ เสียท่าไปเกี่ยว เฆซุส นาบาส ล้มลงในเขตโทษ กรรมการชี้เป็นจุดโทษและ ดาวิด บีญ่า รับหน้าที่สังหาร แต่เล่นทางมากเกินไป ส่งบอลถากเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 65 เชส ฟาเบรกาส ได้ลงสนามมาแทน ชาบี เอร์นานเดซ และจังหวะได้บอลครั้งแรกของ ฟาเบรกาส เกือบเป็นประตูหลังหลุดล้ำหน้าไปแตะหนี โนเอล วายาดาเรส ก่อนจะกระชากไปทางซ้าย แล้วยิงเข้ามาด้วยซ้าย แต่โดน ออสมัน ชาเวซ แนวรับ ฮอนดูรัส วิ่งมาเคลียร์ทิ้งได้ทัน ก่อนที่บอลจะเข้าไป

นาทีที่ 70 สเปน ถอดเอา เฟร์นานโด ตอร์เรส ออกไปพักแล้วเอา ฮวน มาต้า ลงมาแทน จากนั้น ทีมก็ยังคงบุกอยู่ แต่ก็ยังไม่เฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย นาทีที่ 76 สเปน เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายด้วยการส่งอัลบาโร่ อาร์เบลัว ลงมาแทน เซร์คิโอ รามอส

ท้ายเกม “กระทิงดุ” เริ่มเพลาๆเกมรุกลงไปบ้าง จนมาถึงนาทีที่ 87 สเปน ได้สวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวาจาก เฆซุส นาบาส แล้วเปิดใส่พานให้ ดาวิด บีญ่า ได้เดี่ยวๆ ก่อนกองหน้าร่างเล็กจะจับจังหวะแรก แล้วดีดเลียดหวังให้สวนไปทางเสาแรก แต่เซอร์จิโอ เมนโดซ่า สไลด์ขวางบอลออกหลังไป บีญ่า ชวดแฮตทริกอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เหลือ สเปน ยังเดินเกมต่อ แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบเกม สเปน เอาชนะ ฮอนดูรัส ไป 2-0 ต้องไปลุ้นเข้ารอบต่อไปในนัดสุดท้ายกับ ชิลี

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปน : อิเกร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, คาร์เลส ปูโยล, เกราร์ด ปิเก้, โจน คัปเดบิญ่า, ชาบี อลอนโซ่, ชาบี เอร์นานเดซ, เซอร์คิโอ บุสเกตส์, เฆซุส นาบาส, ดาวิด บีญ่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

ฮอนดูรัส : โนเอล วายาดาเรส, เซร์คิโอ เมนโดซ่า, ออสมัน ชาเวซ, มายเนอร์ ฟิเกรัว, เอมิลิโอ อีซากีร์เร่, ดานิโล่ เตอร์ซิออส, วิลสัน ปาลาซิออส, อมาโด้ เกวาร่า, โรเจอร์ เอสปิโนซ่า, ดาวิด ซัวโซ่, วอลเตอร์ มาร์ติเนซ

ที่มา sport.mthai.com

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โคตรแมน!ฟาเบียโน รับแล้วใช้แขนแต่งบอลยิงประตู

ฟาเบียโน รับใช้แขนแต่งบอลทำประตูจริง
โคตรแมน!ฟาเบียโน รับแล้วใช้แขนแต่งบอลยิงประตู หลุยส์ ฟาเบียโน หัวหอก “แซมบ้า” บราซิล ออกมายอมรับใช้แขนแต่งบอลทำประตูที่สองของตัวเอง ในเกมพิชิต “ช้างดำ” ไอวอรี โคสต์ 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 กลุ่มจี นัดที่สอง
บราซิล ดีกรีแชมป์โลก 5 สมัย ทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่แน่นอนแล้ว หลังจากปราบทีมแกร่งจากอย่าง ไอวอรี โคสต์ 3-1 ทำให้เก็บ 6 คะแนนเต็มจากการลงสนามสองนัด ยึดจ่าฝูงกลุ่มจี อย่างไรก็ตาม ในนัดดังกล่าวมีเหตุการณ์ที่เป็นข้อครหาถึง 2 ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นกรณี ริคาร์โด กากา เพลย์เมคเกอร์ “แซมบา” โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม หรือว่าประตูขึ้นนำ 2-0 ดูเหมือน หลุยส์ ฟาเบียโน ดาวยิงตัวเก่งจะใช้มือในการช่วยทำสกอร์
ซึ่ง สเวน-โกรัน อีริคส์สัน กุนซือชาวสวีดิชของ ไอวอรี โคสต์ ออกมาก่น ฟาเบียโน แฮนด์บอลชัดๆ ก่อนทำประตู ล่าสุดศูนย์หน้าจากสโมสรเซบีญา ในลา ลีกา สเปน ออกมายอมรับแล้วว่าตนใช้มือทำช่วยทำประตูจริงๆ “มันเป็นเรื่องจริงที่ลูกฟุตบอลสัมผัสที่มือของผมรวมไปถึงหัวไหล่ แต่มันไม่ใช่เรื่องตั้งใจและนี่ก็คือสุดยอดประตูลูกหนึ่งที่ผมทำได้ในอาชีพค้าแข้

ส่วนกรณีของ ริคาร์โด กาก้า ที่จะติดโทษแบนอัตโนมัติ หมดสิทธิลงสนามช่วย บราซิล เตะนัดสุดท้ายรอบแรกกับ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายนนี้ คาร์ลอส ดุงกา กุนซือบราซิเลียนกล่าวถึง กาก้า ถูกทำฟาวล์แต่กลับโดนลงโทษ ส่วนผู้เล่นที่ตั้งใจทำฟาวล์กลับรอดใบเหลือง ตอนนี้เรายังไม่แน่ใจว่าจะส่งใครลงเล่นแทนเขาในนัดหน้า ผมคงต้องใช้เวลาคิดอีกสัก 2-3 วัน”

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/33418.html

วัลเดอร์ราม่าจวก บอลโลกเบื่อมาก…


วัลเดอร์ราม่าจวก บอลโลกเบื่อมาก…
คาร์ลอส วัลเดอร์ราม่า อดีตนักเตะดังของโคลัมเบียเป็นคนแรกที่ออกโรงจวกฟุตบอลโลกครั้งนี้ว่าน่าเบื่อ โดยการแข่งขันรอบแรกใกล้จะจบลงแล้ว แต่สกอร์รวมของทุกสนามยังอยู่ที่ 57 ประตูเท่านั้น

วัลเดอร์ราม่าซึ่งเล่นให้โคลัมเบียในช่วงปี 1985 -1998 กล่าวว่า “ฟุตบอลโลกครั้งนี้เลวร้ายเข้าขั้นหายนะ ไม่มีอะไรใหม่ มีแต่แมตช์ห่วยๆ พวกเขายิงประตูกันน้อยเหลือเกิน ทีมต่างๆ ก็เล่นกันได้ไม่ดี พวกเขาตั้งรับมากเกินไป มีแต่นักเตะที่เล่นแบบซ้ำซากจำเจ”

“ปัญหาของฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากฝ่ายจัดการแข่งขัน แต่ปัญหาเกิดจากตัวการแข่งขันเอง ในสนามผู้คนต้องการดูโชว์ แต่คุณจะไม่ได้เห็นฟุตบอลที่สวยงามในฟุตบอลโลกครั้งนี้” อดีตกองหลางหัวฟูกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ วัลเดอร์ราม่าชี้ไปที่โค้ชซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด “พวกเขากลัวแพ้ พวกเขาขุดหลุมฝังเกมฟุตบอล พวกเราได้เห็นแต่ทีมที่เล่นเกมรับในระบบการเล่นเดียวกัน คุณจะไม่ได้เห็นผู้เล่นระดับอัจฉริยะซักคน”

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/33425.html

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตราไก่แพแตก! น้าเน็คไล่ อเนลก้า กลับบ้านหลังด่าดุเดือด

ตราไก่แพแตก! น้าเน็คไล่ อเนลก้า กลับบ้านหลังด่าดุเดือด นิโกล่าส์ อเนลก้า / Nicolas Anelka

ทีมชาติฝรั่งเศส ทีมแตก ล่าสุดมีรายงานว่า นิโกลาส์ อเนลก้า กองหน้าตัวเก่งของทีมจบทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2010 ก่อนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ และถูกส่งตัวกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมที่ ฝรั่งเศส แพ้ เม็กซิโก 0-2 ซึ่งการปะทะคารมเกิดขึ้นช่วงพักครึ่งที่ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0 เริ่มจากเรย์มงด์ โดเมเน็ค ตำหนิ อเนลก้า ว่าเล่นไม่ดี และหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง เป็นการจุดชนวนให้หัวหอก “สิงห์บลูส์” เดือดดาลสุดขีด

ทำให้ โดเมเน็ค ขู่ว่า เดี๋ยวจะเปลี่ยนตัวเขาออก เล่นเอา อเนลก้า ซึ่งอารมณ์คุกรุ่นอยู่ก่อนแล้วสวนกลับแบบไม่เห็นหัวกลับไปทันทีว่า “Go f*** yourself, you dirty son of a b****”

ก่อนที่ โดเมเน็ค จะตอบโต้ด้วยการไล่ อเนลก้า ออกจากห้องแต่งตัว “โอเค งั้นออกไปซะ” และพอมาถึงช่วงครึ่งหลัง อองเดร ปิแอร์ ชีญัก จึงถูกส่งลงไปแทน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า อเนลก้า ถูกส่งตัวกกลับฝรั่งเศสช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่สื่อพยายามสอบถามไปยัง วิลเลี่ยม กัลลาส เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทว่าไม่ได้การเปิดเผยรับรายละเอียดใดๆ แถมยังชูนิ้วกลางให้กับนักข่าวที่พยายามเข้าไปสัมภาษณ์อีกด้วย

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/33199.html

ผลบอล : หมอผี ร่วงทีมแรก!นำก่อนพ่ายเดนส์1-2

ผลบอล : หมอผี ร่วงทีมแรก!นำก่อนพ่ายเดนส์1-2
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2010 นัดสอง กลุ่มอี
แคเมอรูน 1 – เดนมาร์ก 2
“หมอผี” แคเมอรูน อยู่ในสภาพหลังพิงฝา เนื่องจากเกมแรกพ่าย ญี่ปุ่น 0-1 โดยปอล เลอ กูเอ็น ปรับทัพส่ง อเล็กซานเดอร์ ซง, เอเชิลล์ เอมาน่า และเฌเรมี่ ไนจ์แท็ป ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วน “โคนม” เดนมาร์ก ที่แพ้ ฮอลแลนด์ 0-2 ในเกมแรกปรับ 2 ตำแหน่งโดยหยอดสองตัวเก๋าอย่าง เจสเปอร์ กรุนชา และยอน ดาห์ล โทมัสสัน ลงเป็นตัวจริง

เริ่มเกมเป็นทั้งสองทีมเปิดฉากอย่างคึกคัก และมาได้ลุ้จบสกอร์ตั้งแต่ 5 นาทีแรก จากลูกยิงไกลนอกเขตโทษของ ซามูเอล เอโต้ ทว่าบอลบดโดนไม่เต็มหลังเท้าหลุดออกหลัง นาทีถัดมา เดนมาร์ก ได้บอลหลุดไปทางฝั่งขวา และเป็น เดนนิส รอมเมดาห์ล หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรก แต่กดไม่ลงบอลโด่งข้ามคาน

จนมาถึงนาทีที่ 10 สกอร์บอร์ดในสนามก็ทำงานจนได้ เมื่อลาร์ส ยาค็อบเซ่น แบ็กขวารับบอลที่เปิดเกมมาจาก โซเรนเซ่น พลาดจ่ายบอลเข้าทาง ปิแอร์ เวโบ ฉกไปได้ ก่อนจะจ่ายตบเข้ากลางให้ ซามูเอล เอโต้ ซัดเน้นๆตรงระยะ 15 หลา ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย 1-0

พอโดนนำ “โคนม” พยายามเดินเกมกดดันทันที นาทีที่ 17 เดนนิส รอมเมดาห์ล ครองบอลทางขวาของเขตโทษ ก่อนจะจ่ายผ่านมาซ้ายสุด เยสเปอร์ กรุนชาร์ ตั้งป้อมซัดด้วยขวา แต่โดน นิโคลัส เอ็นกูลู ปราการหลังดาวรุ่ง “หมอผี” โขกสกัดออกหลัง

จากนั้น เกมเริ่มเนือยๆลงไป จนกระทั่งนาทีที่ 33 เดนมาร์ก ก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ ไซม่อน ชาร์ วางบอลยาวจากหลังมาให้ เดนนิส รอมเมดาห์ล เอาอกพักบอลลงอย่างสวยงาม ก่อนจะควบเข้าไปเอาทางฝั่งขวาในเขตโทษ แล้วตวัดเร็วเข้ามาที่จุดนัดพบให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ลอยตัวจิ้มด้วยหัวเกือกเข้าไป 1-1

ท้ายครึ่งแรก เดนมาร์ก ที่เดินเกมได้วูบวาบเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เดนนิส รอมเมดาห์ล อาศัยความเร็วพาบอลกระชากเข้าเขตโทษ ก่อนจะล็อกหนึ่งจังหวะ ดึงผู้รักษาประตูออกมา แล้วจ่ายหักกลับมาให้ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน วิ่งเข้ามาซัดติดบล็อก อเล็กซ์ ซง อย่างน่าเสียดาย ในนาทีที่ 42

แต่จังหวะสวนกลับมาของ แคเมอรูน ก็เกือบทำให้ทีม “หมอผี” ขึ้นนำอีกครั้งเช่นกัน จากจังหวะที่ ซามูเอล เอโต้ ได้บอลในเขตโทษ ก่อนจะแต่งเข้าขวา แล้วยิงบอลไปชนเสาเด้งออกมา แล้วเป็นแนวรับ “โคนม” มาเคลียร์ทิ้งได้ทัน ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังเสมอกันอยู่ 1-1

มาต่อครึ่งหลัง เดนมาร์ก แก้เกมส่ง ดาเนี่ยล แยนเซ่น ลงมาแทน มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น ขณะที่ แคเมอรูน ถอด เฌเรมี่ ออกไปพักให้ ฌอง มากูน ลงมาทำเกม และเพียงนาทีแรกของครึ่งหลัง แคเมอรูน ได้ลุ้นจากจังหวะลูกเตะมุมฝั่งขวา ฌอง มากูน เปิดเข้ากลาง สเตฟาน เอ็มเบีย เทคตัวขึ้นโขก แต่ไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 50 เดนมาร์ก ได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ระยะหวังผล ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ รับหน้าที่สังหารยิงไปติดกำแพงกระดอนมาเข้าทาง ไซม่อน ชาร์ ซ้ำอีกครั้งบอลโด่งข้ามคาน จากนั้น เกมของทั้งสองทีมยังไม่มีดอกาสหลุดทะลุเข้าไปยิงมากนัก

จนกระทั่งนาทีที่ 62 เดนนิส รอมเมก็มาอาศัยความสามารถเฉพาะตัว หลังจากได้หลุดมาทางขวาในเขตโทษ ก่อนจะดึงจังหวะแล้วกระชากเข้าในหนี ฌอง มากูน ก่อนจะยิงเล่นทางด้วยเท้าซ้าย ส่งบอลเข้าเสียบเสาสองหนีมือ ซูเลย์มานู พร้อมส่ง “โคนม” แซงนำ 2-1

จากนั้น รูปเกมยังแลกกันสนุก แม้ แคเมอรุน จะครองเกมได้ดี แต่ เดนมาร์ก ก็มีจังหวะสวนกลับที่อันตราย นาทีที่ 70 คริสเตียน โพลเซ่น วางบอลยาวให้ เดนนิส รอมเมดาห์ล อีกแล้ว ก่อนที่ปีกตัวเก๋ารายนี้จะแตะเข้าในเขตโทษ แล้วปล่อยให้ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน ยิงด้วยซ้าย แต่จังหวะยิงบอลใกล้ตัวเกินไป บอลเลยไม่ผ่านมือ ซูเลย์มานู

แคเมอรูน สภาพตอนนี้เฉยไม่ไหวแล้ว นาทีที่ 78 “หมอผี” น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เอมาน่า ได้หลุดขึ้นมาทางขวาในเขตโทษ ก่อนจะยิงเรียดกะให้เสียบเสาไกล แต่โธมัส โซเรนเซ่น โชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดออกไปได้ ถัดมา 2 นาที อิดริสซู กองหน้าตัวสำรองของ แคเมอรูน ได้โหม่งลูกเตะมุม แต่บอลหลุดกรอบไปอีก

นาทีที่ 81 เบนด์ทเนอร์ สบโอกาสยิงนอกเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว ซูเลย์มานู ถัดมา 3 นาที แคเมอรูน น่าจะได้ประตูตีเสมออีกครั้งจากจังหวะยิงเต็มแรงของ อาบูบาคาร์ ตัวสำรองอีกราย แต่จังหวะยิงบอลไปไปติดใบหน้าของคริสเตียน โพลเซ่น ที่เสียหลักสไลด์ขวางทางไว้ แล้วกระดอนข้ามคานไป ซึ่งจากภาพช้าเห็นว่า ถ้าไม่โดน โพลเซ่น บอลพุ่งเสียบมุมแน่นอน

ท้ายเกม แคเมอรูน พยายามบุกดดันทุกวิถีทาง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้จบเกม แคเมอรูน ต้องพ่ายแพ้ให้ เดนมาร์ก ไป 1-2 พร้อมกับตกรอบ ฟุตบอลโลก 2010 เป็นทีมแรก ส่วน เดนมาร์ก ต้องไปวัดแข้งนัดสุดท้ายกับ ญี่ปุ่น ที่มี 3 แต้มเท่ากัน แถมผลนัดนี้ ยังส่งผลให้ ฮอลแลนด์ ที่มี 6 แต้มเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นทีมแรกเช่นกัน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แคเมอรูน : ฮามิดู ซูเลย์มานู, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, นิโคลัส เอ็นกูลู, เซบาสเตียน บาสซง, สเตฟาน เอ็มเบีย, อเล็กซานเดอร์ ซง, เฌเรมี่, เอย็อง เอน็อห์, เอชิลล์ เอมาน่า, ซามูเอล เอโต้, ปิแอร์ เวโบ

เดนมาร์ก : โธมัส โซเรนเซ่น, ไซม่อน ชาร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ไซม่อน โพลเซ่น, คริสเตียน โพลเซ่น, เยสเปอร์ กรุนชา, เดนนิส รอมเมดาห์ล, ยอน ดาห์ล โทมัสสัน, มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น, นิคลาส เบนด์ทเนอร์

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/33207.html

แท็ก : Cameroon, denmark, World Cup, ฟุตบอล, ฟุตบอลโลก, เดนมาร์ก, แคเมอรูน

บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010


บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010 ช่วงนี้ อะไรๆก็ฟุตบอลโลก สาวหมวยทั้ง 32 นาง เลยไม่ยอมตกกระแส เลยขอตามกระแสฟุตโลก 2010 ซะหน่อย รักทีมใหนชอบทีมใหนก็เชียร์กันตามสบายเลยครับ พี่น้อง !!
ติช เต ฉ่อ เลยต้องจัดห้าย..

1.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

2.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

3.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

4.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

5.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

6.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

7.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

8.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

9.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

10.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

11.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

12.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

13.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

14.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

15.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010

16.บอดี้เพ้นสุดเซ็กซี่ตอนรับบอลโลกปี 2010
อีก 16 ทีมที่เหลือจะมาUpต่อให้พรุ่งนี้นะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผลบอล : เจ้าภาพร่อแร่!แพ้อุรุกวัยยับ0-3 ฟอร์ลันเบิ้ล


ผลบอล : เจ้าภาพร่อแร่!แพ้อุรุกวัยยับ0-3 ฟอร์ลันเบิ้ล
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2010 รอบแรกนัด 2 กลุ่มเอ
แอฟริกาใต้ 0 – อุรุกวัย 3
“บาฟาน่า” แอฟริกาใต้ ที่เกมแรก เสมอ เม็กซิโก 1-1 ยังคงยืนพื้นนักเตะด้วยชุดเดิมๆ โดยมีการปรับตำแหน่งด้วยการส่ง ทีโก้ โมดิเซ่ ลงมาเป็นตัวจริง ส่วน อุรุกวัย ที่เสมอ ฝรั่งเศส 0-0 ในเกมแรก ส่ง เอดิสัน คาวานี่ ลงเป็น 3 ประสานแนวรุกร่วมกับ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน และหลุยส์ ซัวเรซ
เริ่มเกมช่วงแรกเป็น อุรุกวัย ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่เจ้าภาพทันที และมาได้ลุ้นจากฟรีคิกของ ฟอร์ลัน รวมถึงจังหวะสับไกของ ซัวเรซ และฟูซิเล่ แต่ก็ยังไม่เป็นประตู ขณะที่เจ้าภาพกว่าจะได้จบสกอร์หนแรกต้องรอถึงนาทีที่ 14 จากซิพิเว่ ทีชาบาลาล่า แต่ก็ไม่เข้ากรอบเช่นกัน จากนั้น รูปเกมยังเป็น อุรุกวัย พยายามเดินเกมกดดันเพื่อเอาประตูแรกให้ได้ นาทีที่ 23 หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลทางขวาของเขตโทษพลิกหนี บอนกานี่ คูมาโล่ แล้วยิงด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ อิตูเมเล็ง คูเน่ รับไว้ได้

แต่ถัดมานาทีเดียว อุรุกวัย ก็มาประสบความสำเร็จจนได้ เมื่อดิเอโก้ ฟอร์ลัน ได้บอลจากนอกเขตโทษ แต่แนวรับ “บาฟาน่า” ไม่มีใครเข้าประกบ ทำให้ดาวยิงจาก แอตเลติโก มาดริด ตัดสินใจยิงเต็มแรงด้วยขวาทันที ส่งบอลแฉลบ อารอน โมโคเอน่า แล้วเช็ดคานเข้าไป ชนิดที่ คูเน่ เสียจังหวะยืนขาตายไปแล้ว 1-0

พอขึ้นนำ อุรุกวัย ยังทำเกมได้ดีกว่า นาทีที่ 32 อุรุกวัย ได้ลุ้นอีก จากความผิดพลาดของแนวรับ แอฟริกาใต้ ที่เสียบอลหน้าเขตโทษ แล้วโดนตัดบอลได้ ก่อนจังหวะสุดท้ายจะเป็น หลุยส์ ซัวเรซ แตะหนีตัวประกบหาช่องซัดด้วยขวาเข้าข้างตาข่าย จากนั้น รูปเกมเริ่มเนือยลงไป ทำให้จบ 45 นาทีแรก อุรุกวัย นำ 1-0
มาต่อครึ่งหลัง รูปเกมเจ้าบ้านดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อมีโอกาสได้ทำเกมที่ถนัดบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถหาจังหวะเข้าทำแบบหวังผลได้ ทำให้ต้องอาศัยจังหวะยิงไกล โดยนาทีที่ 54 สตีเว่น พีนาร์ ได้ลองสับไก แต่ก็ติดบล็อกแนวรับทีม “จอมโหด”นาทีต่อมา แอฟริกาใต้ เปลี่ยนตัวส่ง เซอร์ไพร์ส โมรีรี่ มาแทน เล็ทโชลอนยาเน่ แต่รูปเกมก็ยังไม่ดีขึ้น แถมยังเกือบโดนเพิ่มจากจังหวะที่ มักซี่ เปไรร่า ได้เติมเกมขึ้นมายิง แต่ก็ไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 66 แอฟริกาใต้ มีจังหวะได้ป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูฝั่งตรงข้ามบ้าง และเป็น ซิโบนิโซ่ กาซ่า เปิดมาที่เสาแรกให้ คัทเลโก้ เอ็มเปล่า โฉบเข้ามาโขก แต่ไม่ตรงกรอบ ถัดมา 2 นาที ทีโก้ โมดิเว่ ได้ลองยิงให้ มุสเลร่า ต้องออกแรงเซฟบ้าง จากนั้น เกมเป็นเจ้าภาพเริ่มเดินเกมรุกสูงขึ้น ทำให้ อุรุกวัย ถอยร่นลงไปรับมากขึ้น แต่ก็วาง 3 ประสานไว้รอจังหวะสวนกลับ

นาทีที่ 76 ซัวเรซ ได้ลองสับไกนอกเขตโทษ แต่ไปติดเซฟ อิตูเมเล็ง คูเน่ และถัดมานาทีเดียว แอฟริกาใต้ ก็มางานเข้าจนได้ จากจังหวะที่ ฟอร์ลัน ได้สับไกนอกเขตโทษจังหวะแรก คูเน่ เซฟได้ แต่ไม่พ้นอันตราย และเป็น ซัวเรซ วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้ำเข้ามาหวังจะซ้ำดาบสอง แต่โดน คูเน่ กางขาขวางไว้จนล้มลง กรรมการไม่ลังเลชี้เป็นจุดโทษ พร้อมใบแดงสำหรับ คูเน่
แอฟริกาใต้ ต้องเปลี่ยนเอาผู้รักษาประตูสำรองอย่าง โจเซฟส์ ลงมาแทนสตีเว่น พีนาร์ เพื่อลงมาป้องกันจุดโทษ แต่ดิเอโก้ ฟอร์ลัน นิ่ง และคมเกินกว่า โจเซฟส์ จะเซฟได้ หลังจากดาวยิงตัวเก๋าวิ่งมาตะบันเต็มข้อไปทางซ้ายมือตัวเอง แม้โจเซฟส์ จะไปถูกทาง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ 2-0

ท้ายเกม แฟนบอลเจ้าภาพเริ่มทยอยออกจากสนามชนิดที่เสียง วูวูเซล่า เริ่มลดเดซิเบลลงไปบ้าง ขณะเดียวกัน นักเตะก็พยายามจะฮึดเอาประตูตีตื้น แต่ก็เกือบ โดน คาวานี่ กดเพิ่ม แต่จังหวะยิงไปเข้าซอง โจเซฟส์

อย่างไรก็ตาม ช่วงทดเจ็บ อุรุกวัย ก็มาฝังจนได้ เมื่อซัวเรว ที่แลบมาทางขวาได้บอล ก่อนคิดเร็วแปโด่งกลับไปที่หน้าปากประตูข้ามมือผู้รักษาประตูสำรองของเจ้าบ้าน แล้วเป็น อัลวาโร่ เปไรร่า เข้ามาโหม่งลงเข่าของตัวเองเข้าไป 3-0 ก่อนที่กรรมการจะเป่าหมดเวลาไปด้วยสกอร์นี้ทันที และทำให้ อุรุกวัย มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน ส่วนเจ้าภาพงสฃฃงานหนัก เพราะนัดสุดท้ายเจอฝรั่งเศส

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แอฟริกาใต้ : อิตูเมเล็ง คูเน่, ซิโบนิโซ่ กาซ่า, อารอน โมโคเอน่า, บอนกานี่ คูมาโล่, เซโป มาซิเลล่า, คากิโช่ ดิ๊คกาชอย, เรเนียลเว่ เล็ตโชลอนยาเน่, ทีโก้ โมดิเซ่, สตีเว่น พีนาร์, ซิฟิเว่ ทีชาบาลาล่า, คัทเลโก้ เอ็มเปล่า

อุรุกวัย : เฟอร์นานโด มุสเลร่า, มักซี่ เปไรร่า, ดีเอโก้ ลูกาโน่, ดีเอโก้ โกดิน, ฮอร์เก้ ฟูซิเล่, ดีเอโก้ เปเรซ, เอจิดิโอ อเรวาโล่, อัลวาโร่ เปไรร่า, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน, เอดิสัน คาวานี่, หลุยส์ ซัวเรซ

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/32575.html

แท็ก : South Africa, uruguay, World Cup, ฟุตบอล, ฟุตบอลโลก, อุรุกวัย, แอฟริกาใต้

รายการบล็อกของฉัน