วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

เชลซีต้อนโอแอ็มขาด/ ชุดขาวเฉือนหืด

วันพุธ ที่ 29 กันยายน 2553
โรมาเชือดครูชหวิว2-1
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กลุ่ม E อาแอส โรมา จากอิตาลี เปิดรัง สตาดิโอ โอลิมปิกโก เฉือน ซีเอฟอาร์ ครูช จากโรมาเนีย ลงได้หวุดหวิด 2-1 โดย “หมาป่าเหลืองแดง” ได้ 2 ประตูจาก ฟิลิปป์ เม็กแซส ในนาทีที่ 69 และมาร์โก บอร์ริเอลโล ในนาทีที่ 71 ส่วนทีมเยือนแก้คืนได้จาก โลนุต ราดา ในนาทีที่ 78
ส่วนอีกคู่ บาเซิล จากสวิตเซอร์แลนด์ แพ้ บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี คารัง 1-2 โดย เจ้าบ้าน ขึ้นนำก่อน 1-0 จาก อเล็กซานเดอร์ ฟราย ในนาทีที่ 18 ก่อนที่ “เสือใต้” จะรัวคืนทีเดียว 2 ประตูรวดจาก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ในนาทีที่ 56 (จุดโทษ) และ89

เชลซีต้อนโอแอ็มขาด2-0
กลุ่ม F เชลซี ทีมดังจากอังกฤษ เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ต้อน โอลิมปิก มาร์กเซย จากฝรั่งเศส สบายเท้า 2-0 โดย “สิงห์สำอาง” ได้ 2 ประตูจาก จอห์น เทอร์รี ในนาทีที่ 7, นิโกลาส์ อเนลกา นาทีที่ 28 (จุดโทษ)
ขณะที่อีกคู่ สปาร์ตัก มอสโก ทีมดังจากรัสเซีย โชว์ฟอร์มหรู เมื่อเปิดรัง ลุซห์นิกิ สเตเดี้ยม ต้อน เอ็มเอสเค ซิลินา จากสโลวาเกีย ขาดลอย 3-0 โดยเกมนี้ อรี ดา ซิลวา กองหน้าชาวบราซิเลียน โชว์ฟอร์มเป็นพระเอก เมื่อเหมาซัดให้เจ้าบ้านคนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 34 และ61 ส่วนอีกลูกเป็นผลงานของ อิบสัน บาร์เรตโต ซึ่งกดเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 89

ไอแอกซ์เจ๊ามิลาน1-1
กลุ่ม G ไอแอกซ์ อัมสเตอร์ดัม จากฮอลแลนด์ เปิดรัง อัมสเตอร์ดัม อารีนา เสมอกับ เอซี มิลาน จากอิตาลี 1-1 โดยเจ้าบ้านขึ้นนำก่อนจาก มูนีร์ เอล ฮัมดาอุย ในนาทีที่ 23 แต่ “ปีศาจแดงดำ” ไม่ยอมแพ้ และตามมาตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในนาทีที่ 37
ส่วนอีกคู่ โอแซร์ จากฝรั่งเศส โดน รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปน บุกมาเชือดถึงรัง 1-0 โดย “ราชันชุดขาว” ซึ่งเดินหน้าลุยเข้าใส่ตลอด 90 นาที ได้ประตูชัยจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง กดฮาล์ฟวอลเลย์เต็มข้อเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 81

ปืนบุกบอมบ์ปาร์ติซาน3-1
กลุ่ม H ปาร์ติซาน เบลเกรด จากเซอร์เบีย พลาดท่าพ่าย อาร์เซนอล จากอังกฤษคาบ้าน 1-3 โดย “ปืนใหญ่” ขึ้นนำ 1-0 จาก อังเดร อาร์ชาวิน ในนาทีที่ 15 ขณะที่เจ้าถิ่นตามตีเสมอได้จากการสังหารจุดโทษของ คเลโอ ในนาทีที่ 33 ก่อนที่ “ปืนใหญ่” จะเร่งเครื่องกดเพิ่มอีก 2 เม็ดรวดจาก มารูยาน ชามัค ในนาทีที่ 71 และเซบาสเตียน สกิลลาชี ในนาทีที่ 82
สำหรับอีกคู่ บรากา จอมล้มยักษ์จากโปรตุเกส ซ่าไม่ออก เมื่อโดน ชัคตาร์ จากยูเครน บุกมาถล่มเละคารัง 3-0 โดยทีมเยือนได้ประตูจาก ลูอิซ อาเดรียโน ในนาทีที่ 56 และ72 ก่อนที่ ดักลาส คอสตา จะมาสังหารจุดโทษเข้าไปเป็นประตูตอกฝาโลงในนาทีที่ 90+2

ที่มา เดลินิวส์

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

“สิงห์สำอาง”สุดแกร่งมีลุ้นเชือด“เรือใบ” สงครามเศรษฐี

ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. มีดวลแข้งกันจุใจถึง 7 คู่ โดยนอกจากการดวลกันของ 2 ทีมมหาเศรษฐี แมนเชสเตอร์ ซิตี พบ เชลซี ซึ่งถือเป็นคู่เอกประจำวันดังที่เกริ่นถึงไปบนหน้าปก “เสาร์สปอร์ต” แล้วนั้น ยังมีคู่ที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่นเกมของ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เดอะ แบกกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน รวมถึง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่จะเปิดรังรับมือ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ รวมถึงศึกลอนดอนดาร์บีแมตช์ที่ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จะรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ก็น่าดูไม่น้อย ซึ่งสภาพความพร้อมของแต่ละทีม และแนวโน้มของแต่ละเกมจะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้เลยครับผม...

.................................................................

แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชลซี
สนาม : ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ฯ
เวลา : 18.45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1
“เรือใบสีฟ้า” ทีมเยือน มี 8 คะแนนจาก 5 นัด อยู่ที่ 4 ของตาราง โดยเกมนี้ โรแบร์โต มันชินี กุนซือของทีมจะยังคงหมดสิทธิใช้งาน โจลีออน เลสค็อตต์, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ รวมถึง มาริโอ บาโลเตลลี ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด ส่วน เฌโรม บัวเต็ง ที่มีอาการเจ็บเข่าก่อนหน้านี้ มีลุ้นกลับมาลงเล่นในเกมนี้ แต่ยังต้องรอเช็กความฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย ส่วนตัวหลักคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น คาร์ลอส เตเบซ, แกเร็ธ แบร์รี, อดัม จอห์นสัน, ยายา ตูเร พร้อมลงสนามทั้งหมด
ด้าน “สิงห์สำอาง” ชนะรวดมา 5 เกม รั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ โดยเกมนี้ คาร์โล อันเชลอตติ กุนซืออิตาเลียน ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ 2 ตัวหลักอย่าง จอห์น เทอร์รี และ แฟรงค์ แลมพาร์ด แต่คาดว่าทั้ง 2 คนน่าจะพร้อมลงเล่นในเกมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะที่ โฮเซ โบซิงวา แบ๊กขวาชาวโปรตุกีสที่เจ็บเข่าต้องพักยาวนั้น หายเจ็บเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องเรียกความฟิตต่อไป ส่วนนักเตะคนอื่น ๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด โดยบรรดาตัวหลักที่ได้พักในเกม คาร์ลิง คัพ ช่วงกลางสัปดาห์นั้น น่าจะได้กลับคืนทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฟลอร็องต์ มาลูดา หรือ มิชาเอล เอสเซียง
แนวโน้มของเกม - “สิงห์สำอาง” ยังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงต่อเนื่อง แม้เกมนี้จะต้องเป็นฝ่ายออกไปเยือน ก็ยังดูเหนือกว่าอยู่นิด ๆ ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” มีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เต็มทีม แต่ความลงตัวระบบการเล่นและการประสานงานในทีมยังไม่เข้าตาเท่าที่ควร ดูแล้วมีโอกาสที่ลูกทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ จะมีแต้มกลับบ้าน โดยโอกาสคว้า 3 แต้มเต็มถือว่ามีไม่น้อยเลยทีเดียว
สกอร์ที่คาด - แมนเชสเตอร์ ซิตี แพ้ เชลซี 1-2
...............................................................
อาร์เซนอล - เวสต์บรอมวิชฯ
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เวลา : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3
“ปืนใหญ่” เจ้าถิ่น มี 10 แต้มจาก 5 นัด รั้งรองจ่าฝูงของตาราง โดยเกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของทีม มีหวังปวดหัวกับการจัดทีมแน่นอน เนื่องจากจะหมดสิทธิใช้งานนักเตะตัวหลักหลายคน โดย อเล็กซาน

เดอร์ ซง ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในเกมบุกเสมอ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วน เชส ฟาเบรกาส, อาบู ดิยาบี, โธมัส แฟร์มาเลน, ธีโอ วัลค็อตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, นิคลาส เบนท์เนอร์ รวมถึง อารอน แรมซีย์ โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานทั้งหมด แต่ตัวหลักคนอื่น ๆ พร้อมลงสนาม โดย อังเดร อาร์ชาวิน, ซามีร์ นาสรี และ มารูยาน ชามัค จะลงยืนเป็นแกนนำในเกมรุก
ด้าน “เดอะ แบกกีส์” ทีมเยือน มี 7 คะแนนจาก 5 นัด รั้งที่ 10 ของตาราง เกมนี้ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือชาวอิตาลี จะยังคงไม่มี มาเร็ค เช็ก แบ๊กซ้ายตัวเก่งลงช่วยทีม เนื่องจากยังไม่หายเจ็บข้อเท้า โดย นิคกี ชอร์รีย์ น่าจะได้ลงประจำการพื้นที่ดังกล่าวต่อไป ส่วนในรายของ โจ แมทท็อก และ อิสมาเอล มิลเลอร์ นั้น ยังต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยแดนกลางมี คริส บรันต์ ประจำการ แถมจะได้ เจมส์ มอร์ริสสัน พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมด้วย ส่วนแดนหน้ามี ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี กับ มาร์ก-อองตวน ฟอร์กตูเน ลงยืนเป็นหัวหอกคู่กัน
แนวโน้มของเกม - แม้ “ปืนใหญ่” จะเจอปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บและติดโทษแบนเล่นงานเป็นโขยง แต่ดูแล้วพวกเขายังเหนือกว่า “เดอะ แบกกีส์” อยู่หลายขุม โดยเฉพาะในเกมรุกที่ยังอันตรายทุกวินาที แถมเกมนี้ยังได้เล่นในถิ่นของตัวเองอีกด้วย ดูแล้วน่าจะคว้าชัยได้ไม่ยาก เพียงแต่อาจจะยิงไม่ขาดถึง 3-4 ประตูเท่านั้น
สกอร์ที่คาด - อาร์เซนอล ชนะ เวสต์บรอมวิชฯ 2-0
...............................................................
ลิเวอร์พูล - ซันเดอร์แลนด์
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1
“หงส์แดง” ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอในช่วงต้นฤดูกาล โดยมีแค่ 5 แต้มจาก 5 นัด อยู่ที่ 16 ของตาราง โดยเกมนี้ รอย ฮอดจ์สัน จะยังไม่มี เดิร์ค เคาต์ ที่ยังไม่หายบาดเจ็บที่หัวไหล่ ส่วน ฟาบิโอ ออเรลิโอ ก็ยังไม่หายเจ็บเอ็นร้อยหวาย อย่างไรก็ตาม ตัวหลักคนอื่น ๆ ของทีม ที่ได้พักในเกม คาร์ลิง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์จะกลับมาประจำการในเกมนี้ทั้งหมด โดย โฆเซ เรนา จะกลับมาเฝ้าเสาเป็นตัวจริง ส่วน สตีเวน เจอร์ราร์ด จะลงมาประสานงานในแดนกลางร่วมกับ โจ โคล, คริสเตียน โพลเซน และ ราอูล เมยเรเลส โดยมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส คอยจบสกอร์
ด้าน “แมวดำ” ทีมเยือน มี 6 แต้ม จาก 5 นัด รั้งอันดับ 11 ของตาราง โดยในเกมเยือนถิ่น แอนฟิลด์ นัดนี้ สตีฟ บรูซ จะหมดสิทธิใช้งาน อซาโมอาห์ กียาน หัวหอกตัวใหม่ที่มีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า เช่นเดียวกับ เคร็ก กอร์ดอน, คีแรน ริชาร์ดสัน, แอนทอน เฟอร์ดินานด์ และ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ที่ยังเจ็บอยู่ทั้งหมด ส่วน จอห์น เมนซาห์ และ ไมเคิล เทอร์เนอร์ 2 ปราการหลังตัวหลักของทีมยังต้องรอเช็กความฟิต ขณะที่ ลี แคตเทอร์โมล มิดฟิลด์ไดนาโมยังติดโทษแบนเป็นเกมสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ซันเดอร์แลนด์ ยังมี ดาร์เรน เบนท์ ดาวยิงตัวเก่งลงประจำการในแดนหน้าเช่นเดิม
แนวโน้มของเกม - ผลงานของ “หงส์แดง” ยังคงลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนถึงขั้นมีข่าวว่า รอย ฮอดจ์สัน อาจอยู่ไม่ยืดบนเก้าอี้กุนซือเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การได้เล่นในถิ่น แอนฟิลด์ น่าจะช่วยให้พวกเขาได้เปรียบ “แมวดำ” ผู้มาเยือนอยู่พอสมควร และน่าจะเป็นฝ่ายเบียดเอาชนะเก็บ 3 คะแนนได้อย่างหวุดหวิดในที่สุด
สกอร์ที่คาด - ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1
....................................................................

เวสต์แฮม - สเปอร์
สนาม : อัพตัน ปาร์ค
เวลา : 21.00 น.
“ขุนค้อน” เจ้าถิ่น ฟอร์มย่ำแย่มีแค่แต้มเดียวจาก 5 นัด รั้งบ๊วยของตาราง โดยเกมนี้ อัฟราม แกรนท์ นายใหญ่ “เดอะ แฮมเมอร์ส” ที่กำลังเก้าอี้ร้อนสุดขีดนั้น จะไม่มี วาลอน เบห์รามี กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ลงสนาม เนื่องจากเจ้าตัวยังมีอาการเจ็บน่อง ส่วน แจ๊ค คอลลิสัน และ ซาวอน ไฮน์ส เดี้ยงยาว ขณะที่ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ มิดฟิลด์เยอรมัน น่าจะยังไม่พร้อมลงเล่นเกมนี้ แม้จะหายเจ็บต้นขาแล้วก็ตาม ส่วนคนอื่น ๆ พร้อมลงสนาม โดย คาร์ลตัน โคล, เฟรเดริก ปิกิยอนน์ และ วิคเตอร์ โอบินนา จะลงเป็น 3 ประสานในแนวรุก
ด้าน “ไก่เดือยทอง” ทีมเยือน มี 8 แต้มจาก 5 นัด อยู่ที่ 5 ของตาราง เกมนี้ แฮร์รี เรดแนปป์ จะไม่มี เจอร์เมน เดโฟ และ ไมเคิล ดอว์สัน ที่ยังเดี้ยง เช่นเดียวกับ เวดราน ชอร์ลูกา, ยูเนส กาบุล, เจมี โอฮารา และ โจนาธาน วูดเกต ส่วน เอเรลโญ โกเมส นายทวารมือ 1 นั้น ยังต้องรอเช็กความฟิตจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ส่วนตัวหลักที่เหลือ ซึ่งหลายคนได้พักในเกม คาร์ลิง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์นั้น พร้อมลงสนามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์ เคราช์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต หรือ แกเร็ธ เบล
แนวโน้มของเกม - “ขุนค้อน” เริ่มโงหัวขึ้นมาบ้างหลังบุกไป เสมอ สโตค ในเกมที่แล้ว แถมเกม คาร์ลิง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ยังชนะ ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งน่าจะทำให้นักเตะในทีมมีกำลังใจขึ้นมาพอสมควร นัดนี้ได้กลับมาเล่นในบ้าน แถมยังเป็นดาร์บีแมตช์ที่ยอมกันไม่ได้อีกด้วย ดูแล้วโอกาสที่ “ขุนค้อน” น่าจะฮึดแบ่งแต้มจาก “ไก่เดือยทอง” ได้ก็น่าจะมีไม่น้อย
สกอร์ที่คาด - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 1-1
.................................................................
ฟูแลม - เอฟเวอร์ตัน
สนาม : คราเวน ค็อตเทจ
เวลา : 21.00 น.
“เจ้าสัวน้อย” มี 7 แต้มจาก 5 นัด อยู่ที่ 7 ของตาราง เกมนี้ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือของทีม เจอปัญหาขาดแคลนกองหน้าหลังหัวหอกพากันเดี้ยงระนาว โดย บ็อบบี ซาโมรา ข้อเท้าหัก, มุสซา เดมเบเล เจ็บน่อง ส่วน ดิโอมองซี กามารา กับ แอนดี จอห์นสัน เจ็บยาวมานานแล้ว ส่งผลให้อาจต้องดัน คลินต์ เดมป์ซีย์ ขึ้นไปรับบทศูนย์หน้าจำเป็น ดีที่ขุมกำลังอื่น ๆ ยังอยู่กันครบ ทั้ง เดเมียน ดัฟฟ์, เบรเด ฮันเกลันด์, แดนนี เมอร์ฟี และ มาร์ค ชวาร์เซอร์
ด้าน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ทีมเยือน ผลงานย่ำแย่มีแค่ 2 แต้ม จาก 5 เกม รั้งรองบ๊วย ทำเอา เดวิด มอยส์ กดดันไม่น้อย แถมเกมนี้ กุนซือเลือดสกอตต์จะไม่มีตัวหลักอย่าง ทิม เคฮิลล์ ลงช่วยทีม เนื่องจากมีอาการเจ็บหัวเข่า ขณะที่ หลุยส์ ซาฮา และ แจ๊ค ร็อดเวลล์ ยังคงไม่หายเดี้ยง ส่วน วิคเตอร์ อนิเชเบ ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิต โดยเกมนี้ เจอร์เมน เบคฟอร์ด น่าจะได้ลงเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี มิเกล อาร์เตตา, สตีเวน พีนาร์ และ ลีออน ออสแมน คอยปั้นเกม
แนวโน้มของเกม - คู่นี้สภาพทีมย่ำแย่ ขาดตัวหลักไปเยอะพอ ๆ กัน แต่ถ้าวัดจากผลงานแล้ว “เจ้าสัวน้อย” ดูดีกว่าเยอะ แถมเกมนี้ได้เล่นในบ้าน น่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ไม่น้อย ดูแล้ว ฟูแลม ไม่น่าแพ้ในเกมนี้ ขณะที่โอกาสลุ้นถึง 3 คะแนนเต็มก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อย
สกอร์ที่คาด - ฟูแลม ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0
.........................................................
เบอร์มิงแฮม - วีแกน
สนาม : เซนต์ แอนดรูวส์
เวลา : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 6
“ลูกโลก” เจ้าถิ่น มี 6 แต้มจาก 5 นัด รั้งอันดับ 12 ของตาราง เกมนี้ อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือของทีม หมดสิทธิใช้บริการของ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ที่เจ็บเข่า รวมถึง เจมส์ แม็คฟาดเดน ที่ต้องพักยาวถึงต้นปีหน้าเนื่องจากเข่าเดี้ยงเช่นกัน ขณะที่ เควิน ฟิลิปป์ส ดาวยิงตัวเก๋า หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาแล้ว แต่ยังไม่น่าจะฟิตพอลงช่วยทีมในเกมนี้ แต่ เบอร์มิง แฮม จะได้ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ ลงลากเลื้อยทำเกม ส่วนหน้าที่จบสกอร์ยังเป็น คาเมรอน เจอโรม เช่นเดิม
ด้าน “เดอะ ลาติกส์” ทีมเยือน มี 4 แต้มจาก 5 นัด รั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง เกมนี้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือของทีม มีปัญหานักเตะบาดเจ็บแค่คนเดียว คือ แกรี คัลด์เวลล์ กองหลังตัวเก่ง ที่ยังไม่หายจากอาการต้นขาเดี้ยง นอกนั้นพร้อมลงสนามทั้งหมด โดย อันโตลิน อัลคาราซ กองหลังทีมชาติปารากวัย จะยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ สตีฟ โกฮูรี ขณะที่ ฟรังโก ดิ ซานโต กับ เมาโร โบเซลลี จะต้องแย่งกันลงยืนเป็นคู่หูของ ฮูโก โรดาเยกา ในแดนหน้า
แนวโน้มของเกม - เบอร์มิงแฮม เจ้าถิ่น ยังไม่ชนะใครในเกมลีก 3 นัดหลังสุด แถมนัดล่าสุดบุกไปแพ้น้องใหม่อย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบียน อีกด้วย ดังนั้น เกมนี้ แม็คลีช ต้องสั่งลูกทีมเน้นเต็มที่เพื่อเรียกฟอร์มกลับมาให้ได้ ประกอบกับ วีแกน เป็นทีมที่ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย ดูแล้ว “ลูกโลก” น่าจะมีโอกาสคว้า 3 แต้มมากกว่าทีมเยือน
สกอร์ที่คาด - เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ วีแกน 2-0
.........................................................
แบล็กพูล - แบล็กเบิร์นฯ
สนาม : บลูมฟิลด์ โรด
เวลา : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 2
“เดอะ ซีไซเดอร์ส” มี 7 แต้มจาก 5 นัด อยู่อันดับ 9 ของตาราง โดยเกมนี้ เอียน ฮอลโลเวย์ กุนซือของทีมมีปัญหานักเตะบาดเจ็บแค่ หลุยส์ อัลมอนด์ ที่ยังเจ็บยาวคนเดียวเท่านั้น โดยไม่มีนักเตะที่ติดโทษแบนแต่อย่างใด โดยเกมนี้ 11 ตัวจริงน่าจะเป็นชุดเดิมจากเกมบุกพ่ายเชลซี 0-4 ในนัดที่แล้ว โดยแดนกลางมี ชาร์ลี อดัมส์ กัปตันทีมคอยคุมเกม ส่วนแดนหน้าน่าจะยังเป็น ดีเจ แคมป์เบลล์ จับคู่กับ ลุค วาร์นีย์ โดยมี เบรตต์ โอเมอร็อด, มาร์ลอน แฮร์วูด และ แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ทเชอร์ เป็นตัวสอดแทรก
ด้าน “กุหลาบไฟ” ทีมเยือน มี 5 แต้มจาก 5 นัด รั้งที่ 14 ของตาราง โดยเกมนี้ แซม อัลลาร์ไดซ์ มีนักเตะบาดเจ็บแค่ คีธ แอนดรูวส์ คนเดียวเท่านั้น นอกนั้นพร้อมเป็นตัวเลือกให้ “บิ๊กแซม” จัดลง สนามแบบเต็มอัตราศึก โดย คริสโตเฟอร์ แซมบา กัปตันทีมที่เป็นหัวใจสำคัญในเกมรับ จะลงยืนเป็นคุมแผงหลังเช่นเคย ส่วนแดนกลางมี ฟิล โจนส์, วินซ์ เกรลลา และ มอร์เทน กัมป์ส พีเดอร์เซน คุมจังหวะ ส่วน 3 ประสานในแดนหน้าเป็น เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, นิโกลา คาลินิช และ มาเม บีรัม ดิยุฟ
แนวโน้มของเกม - เกมนี้เพิ่งจะเป็นการได้เล่นในบ้านเป็นนัดที่ 2 ของ แบล็กพูล ดังนั้น ลูกทีมของ เอียน ฮอลโลเวย์ น่าจะมีกำลังใจที่จะกู้ชื่อคืนหลังพ่าย เชลซี เละเทะในเกมล่าสุด ทำให้ “กุหลาบไฟ” ไม่น่าจะเจองานง่ายหากหวังจะเก็บ 3 คะแนนกลับบ้าน ดูแล้วโอกาสออกเสมอมีความเป็นไปได้มากที่สุด
สกอร์ที่คาด - แบล็กพูล เสมอ แบล็กเบิร์นฯ 1-1

ที่มา เดลินิวส์

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

CR7 รีเทิร์น เซอร์พร้อมทุ่ม 100 ล้านปอนด์ดึงโด้กลับรังผี


CR7 รีเทิร์น เซอร์พร้อมทุ่ม 100 ล้านปอนด์ดึงโด้กลับรังผี แม่เจ้า! โด้จะกลับบ้าน

ข่าวสุดช็อค เมื่อเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเตรียมการนำ CR7 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลูกศิษย์สุดรักกลับมาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดอีกครั้ง หลังจากโด้โชว์ฟอร์มได้ไม่เด่นกับต้นสังกัดรีล มาดริด

รายงานจากgoal.com สเปนอ้างจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดของเซอร์อเล็กซ์ว่า กุนซือชาวสก็อตแลนด์รายนี้เตรียมแผนการครั้งใหญ่ด้วยการทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์เพื่อดึงโรนัลโด้กลับมาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง

ข่าวนี้ลือกันกระหึ่มในสเปนหลังจากโรนัลโด้ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจกับมาดริด ส่วนเจ้าตัวเองก็รู้สึกไม่แฮปปี้ในถิ่นซานติเอโก้ เบอร์นาบิวและรู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขา

ที่มา http://sport.mthai.com/football/spainish-football/49862.html

รายการบล็อกของฉัน