วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

10 บุคคลที่โดดเด่นแห่งศึกยูซีแอล ประจำซีซั่น2009/10

10 บุคคลที่โดดเด่นแห่งศึกยูซีแอล ประจำซีซั่น2009/10

ศึกสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป คงจะหนีไม่พ้นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งในฤดูกาล 2009/2010 ได้เดินทางมาถึงตอนอวสานเรียบร้อยแล้ว และ เหล่าคอบอลคงได้ทราบกันไปแล้วว่า ใครคือแชมป์ทีมล่าสุดสำหรับซีซั่นที่เพิ่งผ่านพ้นไป แต่ทว่า ความมันส์ของเกมการแข่งขันยังคงเป็นที่กล่าวถึงกันอยู่บ้าง และ วันนี้เราจะไปดูกันว่า ใครคือดาวเด่นประจำยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2009/10 จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน แท็บลอยด์ชื่อดังของประเทศอังกฤษ

อันดับ 10 มารูยาน ชามัคห์ (บอร์กโดซ์) / Marouane Chamakh (Bordeaux)

มารูยาน ชามัคห์ หัวหอกตัวเก่งของ บอร์กโดซ์ ทีมดังแห่งเวทีลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งย้ายเข้าสู่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ดาวยิงชาวโมร็อกโกรายนี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นนี้ และ เป็นส่วนสำคัญในการพาอดีตต้นสังกัดจากฝรั่งเศส มาได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ พร้อมกับผลงานการยิงประตูไปถึง 5 ลูก รวมทั้ง 1 ประตูในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ทว่า บอร์กโดซ์ ต้องโดนเขี่ยหลุดวงโคจร โดยเพื่อนร่วมลีกอย่าง ลียง

อันดับ 9 สเตวาน โยเวติช (ฟิออเรนติน่า) / Stevan Jovetic (Fiorentina)

หัวหอกชาวมอนเตเนโกร วัย 20 ปี คือ หนึ่งในดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ไม่เชื่อไปถาม ลิเวอร์พูล ดูก็ได้ ? โยเวติช คือ เหตุผลที่ทำให้ ฟิออเรนติน่า ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม ด้วย 2 ประตูทองที่เขายิงใส่ทัพ “หงส์แดง” ในสนามสตาดิโอ อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ นอกจากนี้ ดาวรุ่งรายนี้ ยังเหมายิงอีก 2 ลูกในเกมเปิดบ้านเฉือน บาเยิร์น 3-2 แต่น่าเสียดายที่ “ม่วงมหากาฬ” ต้องตกรอบไปด้วยกฏอเวย์โกล์

อันดับ 8 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (รีล มาดริด) / Cristiano Ronaldo (Real Madrid)

รีล มาดริด อาจจะหยุดอยู่แค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับคุณภาพฝีเท้าของดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา สถิติของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น่าประทับใจกว่าผลงานของ “ราชันชุดขาว” ที่โดน ลียง สอยในรอบน็อกเอาท์รอบแรกเป็นไหนๆ ปีกจอมสับรายนี้ กดประตูไปถึง 7 ตุง จากการลงสนามเพียง 6 นัด รวมไปถึงการซัดเบิ้ลใน 2 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม กระนั้น เมื่อคุณจ่ายเงิน 80 ล้านปอนด์ ซื้อนักเตะคนหนึ่งไปร่วมทีม คุณก็คงไม่หวังว่า ผลตอบแทนที่ได้รับจะเป็นอย่างนี้แน่นอน

อันดับ 7 เวสลี่ย์ สไนเดอร์ (อินเตอร์ มิลาน) / Wesley Sneijder (Inter Milan)

โชเซ่ มูรินโญ่ รู้ดีว่า ความฟิตของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ คือ กุญแจสำคัญของ อินเตอร์ มิลาน และเรื่องนี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้ว เมื่อ ดาวเตะชาวดัตช์ ฟื้นจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า และลงไปยิงประตูตีเสมอให้ “งูใหญ่” ในเกมนัดแรกที่จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า พร้อมส่งต้นสังกัดผ่านเข้ารอบชิงด้วยประตูรวม 3-2 ตลอดทัวร์นาเมนต์ สไนเดอร์ สยบเสียงครหาว่า เป็นพวกจอมอุดของ “เนรัซซูรี่” ด้วยการกดไป 3 ประตู และ ทำทางให้เพื่อนกระทุ้งตาข่ายอีก 5 ครั้ง

อันดับ 6 เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) / Wayne Rooney (Manchester United)

น้อยครั้งมากที่เราไม่ค่อยได้เห็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจผิดพลาด เมื่อเข็น เวย์น รูนี่ย์ ลงเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัด 2 กับ บาเยิร์น ทั้งที่ยังไม่ฟิตเต็มถัง บอกให้รู้ถึงความสำคัญของ หัวหอกร่างอวบ ที่มีต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี ผลงานของ “เจ้ารูนัลโด้” คือ สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับพลพรรค “เร้ด เดวิลส์” ในฤดูกาลนี้ โดยนับเฉพาะใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เขาซัดไปถึง 5 ประตูทีเดียว

อันดับ 5 อิวิก้า โอลิช (บาเยิร์น มิวนิค) / Ivica Olic (Bayern Munich)

อิวิก้า โอลิช หัวหอกชาวโครเอเชีย อาจจะไม่ได้ลงเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ในฐานะดาวเตะระดับบิ๊กเนม แต่ตอนนี้เขากลายเป็นสตาร์แห่งทัวร์นาเมนต์ไปแล้ว โอลิช ตอบแทนความไว้ใจของ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งยอมถอดดาวดังอย่าง มาริโอ โกเมซ และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นตัวสำรอง ด้วยการซัดไปแล้ว 7 ประตู แฮตทริกในเกมกับ ลียง ในรอบตัดเชือก ทำให้ โอลิช ไล่หลังจ่าฝูงในตารางดาวยิงสูงสุดอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ อยู่แค่ลูกเดียว

อันดับ 4 ลูซิโอ (อินเตอร์ มิลาน) / Lucio (Inter Milan)

โชเซ่ มูรินโญ่ สร้างทีม “งูใหญ่” อินเตอร์ ขึ้นมา โดยมีเกมรับอันแข็งแกร่งเป็นรากฐานสำคัญ และ หัวใจหลักที่ตั้งอยู่กลางแนวรับของพวกเขาก็คือ ลูซิโอ กองหลังทีมชาติบราซิล ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาอยู่กับ “งูใหญ่” เมื่อช่วงซัมเมอร์ ที่แล้ว

อันดับ 3 อาร์เยน ร็อบเบน (บาเยิร์น มิวนิค) / Arjen Robben (Bayern Munich)

เมื่อคุณเลิกใส่ใจชื่อเสียงเรื่องการเป็นพวก ขี้พุ่ง และ ลีลาการเล่นที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว แล้วเราจะเห็นว่า อาร์เยน ร็อบเบน มีการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมมาก ในซีซั่นนี้ และ แน่นอนว่า บาเยิร์น คงไม่มีทางจะตะเกียดตะกายมาถึงรอบชิงได้แน่นอนหากปราศจากเขา 2 ครั้ง 2 คราที่ ปีกเลือดดัตช์รายนี้ ช่วยชีวิต “เสือใต้” ด้วยการยิงอเวย์โกล์ในการพบกับ ฟิออเรนติน่า และ แมนฯ ยูไนเต็ด

อันดับ 2 โชเซ่ มูรินโญ่ (อินเตอร์ มิลาน) / Jose Mourinho (Inter Milan)

“เดอะ สเปเชียล วัน” โชเซ่ มูรินโญ่ คือ กุนซือเพียงคนเดียวที่เข้ามาอยู่ในลิสต์รายชื่อ แต่คุณไม่อาจปฎิเสธคุโนประการที่ มูรินโญ่ สร้างให้กับ อินเตอร์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ได้ ไม่เพียงแค่การกระตุ้นลูกทีมจนสามารถหักด่าน เชลซี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ได้เท่านั้น แต่ “จ่ามู” ยังพาเด็กๆก่อวีรกรรมที่ห้าวหาญด้วยการสอย บาร์เซโลน่า ในรอบตัดเชือก และ ถ้าไม่มี มูรินโญ่ เป็นมันสมอง ทีม “งูใหญ่” อินเตอร์ จะสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้หรือไม่ ? ตอบง่ายๆว่า ไม่มีทาง

อันดับ 1 ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) / Lionel Messi (Barcelona)

บาร์เซโลน่า ต้นสังกัดของ ลิโอเนล เมสซี่ อาจจะมาสามารถทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ไม่มีใครเถียงว่า นี่เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ เมสซี่ ทำผลงานในแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างสุดยอด หัวหอกร่างจิ๋วรางนี้ นำเป็นดาวยิงสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ด้วยสถิติทำ 8 ประตูจากความพยายาม 29 ครั้ง ต้องขอบคุณแท็กติกของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ทำให้ชาวโลกได้รู้ว่า ยังมีทางที่หยุดความร้อนแรงของ เมสซี่ ได้ แต่เมื่อมองจากสิ่งที่ ซูเปอร์สตาร์อาร์เจนไตน์ ทำกับ อาร์เซนอล ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ บาร์ซ่า เป็นฝ่ายกำชัยเหนือ “ปืนใหญ่” ด้วยประตูรวม 2 นัด 6-3 ต้องบอกคำเดียวว่า สุดยอดดดดดดดด

ที่มา http://sport.mthai.com/write-sport-mthai/30222.html

รายการบล็อกของฉัน