วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก อิตาลี1990 อินทรีเหล็กกับแชมป์สมัยที่3 แข็งแกร่งเกินที่ใครจะหยุดได้

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก อิตาลี1990 อินทรีเหล็กกับแชมป์สมัยที่3 แข็งแกร่งเกินที่ใครจะหยุดได้ ก่อนที่เทศกาลฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จะระเบิดศึกขึ้นมา วันนี้ พวกเราเหล่าคอลูกหนัง มาร่วมกันย้อนรอยดูจุดกำเนิดของศึก เวิล์ด คัพ ตั้งแต่ ครั้งแรก – ปัจจุบัน เป็นการอุ่นเครื่องกันก่อนเลย

ศึกฟุตบอลโลก ปี 1990 ได้บังเกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี หลังจากที่พลาดหวังมาในการชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง ติดต่อกันสำหรับทีมชาติ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนีตะวันตก มาถึงคราวนี้ขุนพล “อินทรีเหล็ก” ได้ก้าวครองแชมป์สมัยที่ 3 เป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าการแข่งขันที่ อิตาลี 1990 นั้นกลับมีเรื่องที่น่าผิดหวัง หลังจากแฟนบอลทั่วโลกตั้งต่รอคอยมาถึง 4 ปี เมื่อ หลายชาติเล่นกันแบบเน้นเกมรับเป็นหลัก จึงทำให้หลายคู่ที่ต้องตัดสินผลแพ้-ชนะกันด้วยการดวลจุดโทษ
[ทีมชาติเยอรมันตะวันตก คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3]
โดยเฉพาะ เกมนัดชิงชนะเลิศ ที่แม้ว่าจะไม่ต้องดวลจุดโทษตัดสิน แต่ทีมเยอรมนีตะวันตก ต้องใช้ลูกจุดโทษของ อันเดรียส์ เบรห์เม่ เป็นการตัดสินในการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 มาครอง และ “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา ผู้ปราชัยในนัดชิงฯ กลับกลายเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่ไม่สามารถทำประตูได้ ในนัดชิงชนะเลิศ รวมทั้งมีผู้เล่นถูกไล่ออกจากสนามถึง 2 คน ด้วยกัน และทั้งสองทีมต่างก็ผ่านรอบรองชนะเลิศมาด้วยการยิงจุดโทษเมื่อ อาร์เจนตินานั้นผ่านอิตาลีเจ้าภาพ และเยอรมนี นั้นผ่าน อังกฤษมา

แต่ทว่า ทีมจอมเซอร์ไพรส์แห่งเวิล์ด คัพ 1990 นั้นเป็นของ “หมอผี” แคเมอรูน ที่สามารถทะลุถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และ คอสตาริกา ที่เข้ารอบ 16 ทีม สุดท้ายได้ รวมทั้งมี โรเจอร์ มิลลา ดาวยิงของทัพ “หมอผี” ที่ติดทีมชาติมาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แม้ว่าจะมีอายุปาเข้าไป 38 ปี แล้วก็ตาม นอกจาก มิลลา ที่เป็นที่จดจำจากการเป็นนักเตะที่แก่ที่สุดที่ทำประตูในรอบสุดท้ายด้วยอายุ 38 ปี กับอีก 20 วันแล้ว นักเตะคนอื่นๆ ที่เซอร์ไพรส์ขึ้นมาก็ยังมี ซัลวาตอเร สคิลลาชี และ แซร์จิโอ กอยโกเชีย อีก 2 คน

โดยที่เจ้า “โตโต้” ซัลวาตอเร สคิลลาชี ผู้เล่นของ “อัซซูรี่” อิตาลี นั้นโผล่มาเป็นดาวยิงสูงสุดของทัวร์นาเม้นท์นี้ จากการพังประตูไป 6 ลูกได้อย่างเหลือเชื่อเพราะว่า ก่อนหน้าในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย สคิลลาชี เพิ่งจะลงเล่นในนามทีมชาติได้ไม่กี่เกม และ ก็มาลุยบอลโลก ด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่สุดท้ายก็ระเบิดฟอร์มจนเกือบพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้
[โลโก้ของการแข่งขันศึกเวิล์ด คัพ 1990 ที่ประเทศอิตาลี]
ส่วน แซร์จิโอ กอยโกเชีย นายทวารของทีม “ฟ้า-ขาว” ก็ทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อ เนรี ปุมปิโด โกลมือ 1 เกิดบาดเจ็บในเกมนัดเปิดสนาม กับ แคเมอรูน และ เจ้า “กอยโกเชีย” ได้ลงเล่นแทน 7 นัด แต่เสียเพียงแค่ 2 ประตู เท่านั้น โดยในรอบรองชนะเลิศที่ทั้งสองคนมาเจอกันเอง แม้ว่า สคิลลาชี จะยิงได้ 1 ประตู แต่ อาร์เจนตินา ก็ได้ เคลาดิโอ คานิกเกีย ที่จับคู่กับ ดิเอโก มาราโดนา พาชาวอาร์เจนไตน์คว่ำ “แซมบ้า” บราซิล ด้วยการมายิงตีเสมอให้ทีม ก่อนกำชัยชนะ ด้วยการดวลลูกจุดโทษ ซึ่งก่อนหน้านี้ กอยโกเชีย ก็ช่วยเซฟประตูให้ “ฟ้า-ขาว” ผ่าน ยูโกสลาเวีย ในการดวลจุดโทษมาแล้วในรอบ 2

ขณะที่เส้นทางของทีมแชมป์โลกนั้น เริ่มต้นมาได้อย่างสวยหรู เมื่อ ไล่ต้อน ยูโกสลาเวีย 4-1, ถลุง ยูเออี 5-1 และ เสมอ โคลัมเบีย 1-1 ในรอบแรก ก่อนที่รอบ 2 เอาชนะ ฮอลแลนด์ 2-1 ตามด้วยการบดเอาชนะ เช็กโกสโลวะเกีย 1-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และ ยิงลูกจุดโทษชนะ อังกฤษ 4-3 ในรอบรองชนะเลิศ หลังจากที่ในเวลาเสมอกัน 1-1

ในนัดชิงชนะเลิศแม้ว่า “อินทรีเหล็ก” เยอรมนีตะวันตก จะต้องเอาชนะด้วยการเป่าจุดโทษของผู้ตัดสินชาวเม็กซิกัน แต่เรื่องของรูปเกมนั้นทีม”อินทรีเหล็ก” ทำได้เหนือกว่ามาก จากการที่มีนักเตะชั้นยอดในทีมมากมายไม่ว่าจะเป็น โลธาร์ มัทเธอุส, อันเดรียส์ เบรห์เม่, รูดี้ โฟลเลอร์, เจอร์เกน คลิ้นส์มันน์, เจอร์เกน โคห์เลอร์ และโธมัส เฮสเลอร์ รวมไปถึงมี ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ เป็นกุนซือชั้นดี จึงจัดว่า เป็นปีที่เหมาะสมที่สุดที่ เยอรมันตะวันตก จะได้แชมป์โลก 3 สมัย เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก “แซมบ้า” บราซิล และ “อัซซูรี่” อิตาลี

เกร็ดน่ารู้กับอิตาลี 1990 : “โตโต้” ซัลวาตอเร สคิลลาชี เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำ ในเวิล์ด คัพ 1990 ถือว่า แจ้งเกิดในช่วงข้ามคืน เพราะว่า ก่อนหน้าที่จะทำการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย กองหน้าของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส รายนี้ เพิ่งจะลงเล่นให้กับทีมชาติอิตาลี เพียงแค่นัดเดียว เท่านั้น แต่ทว่า ในเกมนัดแรกที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา ปะทะกับ ออสเตรีย ก็สามารถยิงประตูชัยให้ทีมชนะไป 1-0 จนได้
ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก อิตาลี1990
ที่มา http://sport.mthai.com/write-sport-mthai/27566.html

รายการบล็อกของฉัน