วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก ฝรั่งเศส1998 ซีดานนำตราไก่คว้าถ้วยเวิล์ดคัพครั้งแรก

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก ฝรั่งเศส1998 ซีดานนำตราไก่คว้าถ้วยเวิล์ดคัพครั้งแรก ก่อนที่เทศกาลฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จะระเบิดศึกขึ้นมา วันนี้ พวกเราเหล่าคอลูกหนัง มาร่วมกันย้อนรอยดูจุดกำเนิดของศึก เวิล์ด คัพ ตั้งแต่ ครั้งแรก – ปัจจุบัน เป็นการอุ่นเครื่องกันก่อนเลย

การแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส หรืออีกชื่อว่า ฟรองซ์ 98 นั้นเองเป็นมหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อทาง ฟีฟ่า ให้มีชาติเข้ารอบสุดท้าย ถึง 32 ทีม และ เพิ่มการแข่งขันขึ้นมาเป็น 64 นัด จากเดิมที่ลงเล่นกันเพียง 52 นัด เมื่อมี 24 ทีม รวมทั้ง ฝรั่งเศส เจ้าภาพยังมีการเปิดสนามแห่งใหม่ คือ สต๊าดเดอ ฟรองซ์ ในกรุงแซงต์ เดอนีย์ ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ซึ่งก็เป็นการต้อนรับการเป็นแชมป์โลกสมัยแรกของทัพ “ตราไก่” ที่มาพร้อมกับความสุดยอดของ “ชิซู” ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอม
[ทีมชาติฝรั่งเศส (ฺฺFrance) ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์โลกครั้งแรก]
ทีม “กระทิงดุ” สเปน ที่ถูกคาดหมายว่าจะทำผลงานได้ดีในศึกฟร้องซ์ 1998 กลับโชว์ผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อต่องตกรอบแรก ขณะที่ในกลุ่ม จี ทาง “สิงโตคำราม” อังกฤษ กอดคอ “ผีดิบ” โรมาเนีย ทะลุเข้ารอบต่อไป ด้าน อาร์เจนตินา ก็โชว์ฟอร์มในกลุ่ม เอช ได้ร้อนแรง ชนะทุกนัด โดยไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว พร้อมกับการ “บาติโกล์” กาเบรียล บาติสตูต้า ซัดแฮตทริก ได้ในเกมถล่ม จาเมกา 5-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างสวยงาม
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย มีเกมที่น่าสนใจอยู่ที่เมืองแซงต์ เอเตียน เมื่อ “สิงโตคำราม” อังกฤษ พบกับ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา และในช่วง 45 นาทีแรก จัดว่าเป็นเกมที่เล่นกันสนุกเอาการเมื่อ กาเบรียล บาติสตูตา ยิงจุดโทษพาทีมอาร์เจนตินา ออกนำไปก่อน ทว่า อลัน เชียเรอร์ ก็มายิงจุดโทษคืนในอีก 4 นาทีต่อมา หลังจากนั้นก็เป็นการลุยเดี่ยวของ ไมเคิล โอเว่น ที่ลากไปยิงให้ทัพผู้ดีขึ้นนำ 2-1 และ มาเสมอกันในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกสูตรของ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ที่ไปแอบในกำแพง ซึ่งเป็น 45 นาที ที่เปี่ยมคุณภาพด้วยสกอร์ 2-2 แต่ครึ่งหลังนั้นเกมเปลี่ยนไปหลังจากที่ เดวิด เบ็คแฮม ไปเสียท่าของ ดิเอโก ซิเมโอเน จนถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไปแต่ก็ไม่สามารถทำประตูกันได้จนจบ 120 นาที และการตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษนั้น คาร์ลอส โรอา เซฟลูกยิงของ เดวิด แบ็ตตี ในลูกที่ 5 ทำให้ “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา เข้ารอบ พร้อมส่ง “สิงโตคำราม” อังกฤษ กลับบ้านไปก่อน
[ฟุตติกซ์ (Footix) มัสคอตของการแข่งขันศึกฟรองซ์ 1998]
ขณะที่ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ผ่านรอบแรกถือว่าไม่มีปัญหา แต่พอถึงรอบสองนั้นต้องใช้เวลา 113 นาที ก่อนที่ โลรองต์ บลองก์ จะยิงประตูโกลเด้นโกล์ให้ “ตราไก่” ได้ ต่อด้วยการไปเสมอกับ อิตาลี แบบน่าแพ้ เพรา ะในเวลาปกติ โรแบร์โต บักโจ้ มีโอกาสยิงชนคาน ดังนั้นจึงต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ และ ลุยจิ ดิ เบียโจ ดันยิงบอลไปชนคานก็เป็นการตัดสินให้ ฝรั่งเศส ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ในรอบรองชนะเลิศทีม “ตราไก่” ต้องมาเจอกับ โครเอเชีย ม้ามือที่ถล่ม เยอรมนี มา 3-0 และ ก็เกือบจะพลิกล็อกได้อีกครั้ง เมื่อ ดาวอร์ ซูเคอร์ ยิงให้ทีมนำก่อน แต่เจ้าถิ่นนั้นมี ลิลิยอง ตูราม กองหลังผิวสีที่พัง 2 ประตู พลิกมาชนะ 2-1

ในวันที่ 12 ก.ค. 1998 วันแห่งความยิ่งใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อ “แซมบ้า” บราซิล มีปัญหาภายในทีม และ ไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะเอาใครลงเล่นระหว่าง โรนัลโด้ ที่เจ็บกับ เอ็ดมุนโด้ แต่สุดท้ายก็เข็นเอา โรนัลโด้ ลงสนาม แต่ทีมไม่ได้ออกมาอบอุ่นร่างกายก่อนการลงสนาม จึงเป็นเรื่องง่ายดายของ ฝรั่งเศส ที่เมื่อรวมกับความยอดเยี่ยมของ ซีเนอดีน ซีดาน ส่งให้ ฝรั่งเศส ได้คว้าถ้วยฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จ

เกร็ดน่ารู้กับฝรั่งเศส 1998 : ศึกบอลโลก หนนี้ จัดว่าเป็นการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จรายการหนึ่ง จากการที่เพิ่มทีมในรอบสุดท้ายมาเป็น 32 ทีม ทำให้ทุกทีมเน้นเรื่องเกมรุกกันมากขึ้น เนื่องจากในรอบแรกอันดับ 3 ของกลุ่มจะไม่มีโอกาสเข้ารอบเหมือนครั้งที่มีแค่ 24 ทีม รวมทั้งศึกแจ้งเกิดของ อาเรียล ออร์เตก้า ของ “ฟ้า-ขาว”อาร์เจนตินา, เธียร์รี อองรี ของ “ตราไก่” ฝรั่งเศส และ ไมเคิล โอเว่น ของ”สิงโตคำราม” อังกฤษ
ย้อนรอย , ฟุตบอลโลก ฝรั่งเศส1998
ที่มา http://sport.mthai.com/write-sport-mthai/28987.html

รายการบล็อกของฉัน