วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก เม็กซิโก1986 หัตถ์พระเจ้ากับแชมป์โลกสมัยที่2ของฟ้า-ขาว

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก เม็กซิโก1986 หัตถ์พระเจ้ากับแชมป์โลกสมัยที่2ของฟ้า-ขาว ก่อนที่เทศกาลฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จะระเบิดศึกขึ้นมา วันนี้ พวกเราเหล่าคอลูกหนัง มาร่วมกันย้อนรอยดูจุดกำเนิดของศึก เวิล์ด คัพ ตั้งแต่ ครั้งแรก – ปัจจุบัน เป็นการอุ่นเครื่องกันก่อนเลย

การแข่งขันศึกฟุตบอลโลก เม็กซิโก 1986 ถือว่าเป็นครั้งที่ 13 ประเทศเม็กซิโก ถือว่า ส้มหล่นอย่างมากเมื่อได้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมอันยิ่งใหญ่ ครั้งที่ 13 หลังจากที่ประเทศโคลัมเบีย ประกาศว่า ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ในปี 1983 ทำให้เม็กซิโก เป็นชาติแรกที่ได้เป็นเจ้าภาพ 2 ครั้ง แต่กว่า จะจัดการแข่งขันได้สำเร็จนั้น ถือว่ามีอุปสรรคเหมือนกัน เพราะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งโชคดีที่ไม่กระทบกระเทือนกับการเตรียมงานมากนัก แต่ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปร่วม 2 หมื่นคน ทว่า ฟุตบอลโลก 1986 คงไม่มีผู้เล่นคนใดเด่นไปกว่า ดิเอโก มาราโดนา ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า ได้อีกแล้ว
[ภาพจังหวะ "หัตถ์พระเจ้า" ของ มาราโดนา]
เม็กซิโก 1986 ก็มีการแข่งขันที่น่าจดจำอยู่พอควร ซึ่งหลายๆคนมองว่ามันเป็นเกมที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก เลยก็ว่าได้ คือ เกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ บราซิล ปะทะกับ ฝรั่งเศส รวมถึงรอบรองชนะเลิศของ เยอรมนีตะวันตก กับ ฝรั่งเศส และ “หัตถ์พระเจ้า” ของ มาราโดนา ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายของอาร์เจนตินา กับ อังกฤษ ที่ปัจจุบันนี้ เหล่าแฟนบอลยังคงต้องกล่าวถึง
ในเกมระหว่าง “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา กับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ดิเอโก้ มาราโดนา ได้มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดว่าเป็นคนทำ 2 ประตู ให้ “ฟ้า-ขาว” เบียดชนะไป 2-1 แต่หนึ่งในนั้นเป็นประตูที่เรียกว่า “หัตถ์พระเจ้า” เนื่องจาก เขาใช้มือชกบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินนั้นผิดพลาดตัดสินให้เป็นประตูจึงเกิดตำนานที่ชื่อว่า “แฮนด์ ออฟ ก็อด” ขึ้นมา หลังจากนั้นทัพอาร์เจนไตน์ ก็ทะลุผ่าน เบลเยียม ก่อนที่จะได้แชมป์โลก ด้วยการเอาชนะ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนีตะวันตก 3-2 ต่อหน้าผู้ชม 115,000 คน ในสนามอัซเตกา สเตเดียม

เวิล์ด คัพ 1986 ครั้งนี้ ยังมีชาติที่เข้าร่วมถึง 24 ทีม ที่ร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายเหมือนกับที่สเปน แต่ในรอบ 2 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเมื่อใช้วิธีจับคู่เตะน็อคเอาท์ในรอบ 16 ทีม สุดท้ายไปเลย ดังนั้นทีมอันดับ 3 ของบางกลุ่มก็ยังมีโอกาสที่ได้เข้ารอบ และ ก็มีชาติที่เข้ามาสร้างสีสันขึ้นมาคือ โมร็อกโก ที่เป็นตัวแทนจากทวีปแอฟริกา ที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบที่สอง
[ดิเอโก้ มาราโดนา / Diego Maradona]
ขุนพล “ตราไก่” ฝรั่งเศส ยังเป็นชาติที่แฟนบอลให้การติดตามกับการเล่นบอลที่สวยงาม ที่นำทีมโดยสี่ขุนพล มิเชล พลาตินี, อแลง ชิเรสส์, ฌอน ติกานา และ หลุยส์ แฟร์น็องเดซ ซึ่ง ฝรั่งเศส ชุดนี้ก็ประกาศว่า ได้ลุ้นถึงแชมป์ด้วยการบดเอาชนะ อิตาลี 2-0 ในรอบ 2 และ มาชนะ “แซมบ้า” บราซิล ในการดวลจุดโทษของรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาวเมื่อต้องปราชัยต่อ เยอรมนีตะวันตก 0-2 ในรอบสี่ทีมสุดท้าย

ทางด้าน “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา นั้นผ่าน เบลเยียม ในรอบรองชนะเลิศ 2-0 มาถึงเกมนัดชิงชนะเลิศ นั้นถือว่าเป็นนัดที่ยอดเยี่ยมอีกเกมเพราะมีการทำประตูกันถึง 5 ประตู โดยทางฟ้าขาวนั้นออกนำก่อนถึง 2-0 แต่ อินทรีเหล็ก ก็มาตามตีเสมอได้ก่อนที่ “เสือเตี้ย” ดิเอโก้ มาราโดนา จะใช้ทีเด็ดของตัวเองแทงบอลให้ โฮเซ บูร์รูชากา ยิงประตูตัดสินก่อนหมดเวลา 7 นาที ส่งให้ อาร์เจนตินา ครองแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปครอง

เกร็ดน่ารู้กับเม็กซิโก 1986 : เมื่อ 4 ปี ก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศส ก็เพิ่งแพ้ให้กับ เยอรมนีตะวันตก ในการดวลจุดโทษรอบรองชนะเลิศ และในฟุตบอลโลก ที่เม็กซิโก ทัพ “ตราไก่” ก็ต้องปราชัยให้กับ “อินทรีเหล็ก” อีกครั้ง แต่คราวนี้ เยอรมนีตะวันตก มี อันเดรียส์ เบรห์เม กับ รูดี โฟลเลอร์ ทำคนละประตูให้ทีมชนะไป 2-0

ย้อนรอย : ฟุตบอลโลก เม็กซิโก1986 หัตถ์พระเจ้ากับแชมป์โลกสมัยที่2ของฟ้า-ขาว
ที่มา http://sport.mthai.com/write-sport-mthai/26930.html

รายการบล็อกของฉัน