วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผลบอล : อังกฤษ1-1เซ็ง!กรีนแจกโชคมะกัน


ผลบอล : อังกฤษ1-1เซ็ง!กรีนแจกโชคมะกัน
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2010
อังกฤษ 1 – สหรัฐอเมริกา 1

“สิงโตคำราม” อังกฤษ เกมนี้ใช้ เลดลี่ย์ คิง ลงเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ ขณะที่คู่กองหน้าใช้ เวย์น รูนี่ย์ กับเอมิล เฮสกี้ ขณะที่ สหรัฐอเมริกา มีผู้เล่นที่ค้าแข้งในลีกอังกฤษหลายรายลงสนาม นำทัพโดยคลินท์ เดมป์ซี่ย์ และแลนดอน โดโนแวน ที่กลางซีซั่นที่แล้วย้ายไปเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน แบบยืมตัว

แต่เริ่มเกมมาเพียง 4 นาทีเท่านั้นเป็น อังกฤษ ออกนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ เฮสกี้ ได้บอลทางซ้ายระยะประมาณ 30 หลา ก่อนจะตัดสินใจแทงขึ้นไปข้างหน้าให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด สอดเข้ามารับบอลในเขตโทษ แล้วดีดด้วยขวาสวนตัว ทิม โฮเวิร์ด เข้าไป “สิงโตคำราม” แล้ว 1-0

พอได้ประตูนำ อังกฤษ ยังไม่เพลา เดินเกมต่อทันที และมาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกในนาทีที่ 10 ของ แลมพาร์ด แต่บอลออกข้างไป นาทีต่อมา สหรัฐฯมามีโอกาสแรกของเกมนี้จากจังหวะเติมเกมทางขวาของ เชรุนโดโล่ แล้วเปิดเข้ามาให้ คลินท์ เดมป์ซี่ย์ โฉบขึ้นดหม่ง แต่บอลไปตรง โรเบิร์ต กรีน รับไว้ได้

จากนั้น เกมเริ่มเป็นทีมจากแดนลุงแซม กดดันด้วยการเปิดยาวเข้ามาในเขตโทษ และกดดัน “สิงโตคำราม” ได้หลายจังหวะ จนมาถึงนาทีที่ 18 สหรัฐฯ พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อโดโนแวน ได้บอลทางขวา ก่อนจะหยอดเข้ามาให้ โจซี่ อัลติดอร์ โถมขึ้นโหม่ง แต่จังหวะขึ้น โดนเลดลี่ย์ คิง ค้ำไว้ ทำให้โหม่งโดนไม่เต็ม บอลออกข้างไป

แต่นาทีถัดมา อังกฤษ ได้ตอบโต้จากความเร็วของ เลนน่อน ที่เจาะเข้ามาทางขวา แต่จังหวะสุดท้ายเปิดมาให้ แลมพาร์ด ยิงไปติดเซฟ ขณะที่จังหวะถัดมา รูนี่ย์ มีจังหวะได้ยิงไกล แต่ก็ไม่ผ่านมือ โฮเวิร์ด ที่ทิ้งตัวรับไว้ได้ นาทีที่ 26 เจมส์ มิลเนอร์ มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมจากจังหวะทำฟาวล์ เชรุนโดโล่ และจากลูกตั้งเตะทางขวาประมาณ 35 หลา โดโนแวน รับหน้าที่เปิดเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็นโอกูชี่ ออนเยวู ขึ้นดหม่งไปเสาสอง แต่บอลออกข้างไปแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 31 ฟาบิโอ คาเปลโล่ ทำช็อกเล็กน้อย หลังจากตัดสินใจแก้เกมเร็วถอด มิลเนอร์ ออกแล้วส่ง ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ลงไป นาทีต่อมา โจซี่ อัลติดอรื สบโอกาสยิงไกลให้ สหรัฐฯ แต่บอลไปตรงตัวโรเบิร์ต กรีน

นาทีที่ 37 ไรท์ ฟิลลิปส์ หาจังหวะเจาะมาทางซ้าย ก่อนได้ลองยิงไกล แต่บอลติดไซด์ก้อย เลี้ยวออกหลังไป แต่ถัดมา 3 นาที กลับกลายเป็น สหรัฐฯ มาได้ประตูตีเสมอจากความผิดพลาดของโรเบิร์ต กรีน เมื่อคลินท์ เดมป์ซี่ย์ ได้บอล และวนไปมาหน้าเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจแต่งเข้าซ้าย แล้วยิงเข้ามาทันที ซึ่งจริงๆแล้วบอลไปตรงตัว โรเบิร์ต กรีน แต่นายทวารเวสต์แฮม ตัดสินใจไม่ดี ก่อนจะรับหลุด แล้วปลิ้นเข้าประตูไปแบบสุดช็อก 1-1

พอเสียประตูไป อังกฤษ เดินเกมเร็วทันที และเกือบมาได้ประตูนำอีกครั้งจากเกล็น จอห์นสัน ที่ได้หลุดมายิงด้วยซ้าย แต่ทิม โฮเวิร์ด ยังทิ้งตัวรับไว้ได้ ท้ายครึ่งแรก เป็น อัีงกฤษ เดินเกมกดดัน แต่ก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก เสมอกันไป 1-1

มาต่อครึ่งหลัง อังกฤษ แก้เกมเปลี่ยนตัวคนที่สอง โดย คาเปลโล่ เลือกเอา เจมี่ คาร์ราเกอร์ ลงมาแทน เลดลี่ย์ คิง โดยรูปเกมช่วงแรกของครึ่งหลัง “สิงโตคำราม” ครองเกมได้ แต่เจาะไม่ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 52 เอมิล เอสกี้ มาได้โอกาสทอง จากจังหวะจ่ายทะลุให้ของ เลนน่อน แต่จังหวะยิงเต็มแรงของกองหน้า แอสตัน วิลล่า ไปตรงตัวทิม โฮเวิร์ด รับเข้าซองแบบไม่กระฉอกเลยด้วยซ้ำ

จากนั้น เกมยังเป็น อังกฤษ บุกต่อ ขณะที่ สหรัฐฯ รอจังหวะสวนกลับเร็ว และเป็น คาร์ราเกอร์ ต้องมาโดนใบเหลือง จากจังหวะไปทำฟาวล์ ฟินด์ลี่ย์ ในนาทีที่ 59 แต่อีก 3 นาทีต่อมา แลมพาร์ด ได้โอกาสสับไกด้วยซ้ายนอกเขตโทษให้ อังกฤษ แต่บอลไปตรง โฮเวิร์ด ปัดข้ามคานออกไป

นาทีที่ 64 เกล็น จอห์นสัน ได้จังหวะเติมขึ้นมาจบสกอร์จากจังหวะเตะมุม แต่จังหวะยิงด้วยซ้าย บอลบดออกหลังไป นาทีต่อมา สหรัฐฯ เกือบมาได้ประตูแซงนำ เมื่อ อัลติดอร์ อาศัยความแข็งแกร่งเบียด คาร์ราเกอร์ จากกราบซ้ายของสนาม แล้วได้หลุดเข้าไปในเขตโทษ และยิงเสาแรก บอลโดน โรเบิร์ต กรีน ล้มตัวเซฟปัดชนเสา บอลกระเด้งออกมา ก่อนแนวรับทีมผู้ดีจะช่วยเคลียร์กันได้ทัน

นาทีที่ 71 เวย์น รูนี่ย์ มีโอกาสจบสกอร์เหมือนกัน จากจังหวะครอสมาให้ของ เจอร์ราร์ด แต่บอลลอยมาโด่งเกินไป ทำให้หอกร่างตันโถมโขกกดบอลไม่ลง 4 นาทีต่อมา รูนี่ย์ โชว์ไหวพริบ หลังจากได้ลูกตั้งเตะสั้นจาก แลมพาร์ด ก่อนจะตัดสินใจยิงลักไก่กว่า 35 หลา บอลเลี้ยวเฉี่ยวเสาไปแบบมีลุ้น ชนิดที่ โฮเวิร์ด หน้าเหวอไปแล้ว

นาทีที่ 75 ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ได้โอกาสทำประตูให้ อังกฤษ อีกครั้ง จากการดึงจังหวะให้ของ รูนี่ย์ แต่จังหวะยิงของปีกร่างเล็กไปติดเซฟ โฮเวิร์ด ปิดมุมได้ และปัดออกหลังไป นาทีต่อมา เฮสกี้ มีจังหวะขึ้นโหม่งจากลูกเปิดของ เจอร์ราร์ด แต่ก็โขกกดไม่ลง บอลข้ามคานไป

นาทีที่ 77 สหรัฐฯ เปลี่ยนตัวคนแรกด้วยการถอด ฟินด์ลี่ย์ ออก แล้วเอา เจนสัน บัดเดิล ลงไป ขณะที่ 2 นาทีต่อมา ปีเตอร์ เคร้าช์ ถูกส่งลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้ายของ อังกฤษ แทน เฮสกี้

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สหรัฐฯ เริ่มถอยร่นลงไปตั้งแนวรับกันมากขึ้น ทำให้ อังกฤษ เจาะเข้าทำยาก แถมนาทีที่ 88 โดโนแวน ได้บอลบริเวณเกือบ 40 หลา ก่อนจะตะบันเต็มข้อ แต่บอลข้ามคานออกไป ช่วงเวลาที่เหลือ อเมริกา เผาเวลาด้วยการส่ง โกเมซ ลงมาเดมป์ซี่ย์ ก่อนที่ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม เสมอกันไป 1-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : โรเบิร์ต กรีน, จอห์น เทอร์รี่, เลดลี่ย์ คิง, แอชลี่ย์ โคล, เกล็น จอห์นสัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เจมส์ มิลเนอร์, อารอน เลนน่อน, เวย์น รูนี่ย์, เอมิล เฮสกี้

สหรัฐอเมริกา : ทิม โฮเวิร์ด, โอกูชี่ ออนเยวู, เจย์ เดเมริต, คาร์ลอส โบคาเนกร้า, สตีฟ เชรุนโดโล่, ริคาร์โด้ คลาร์ก, ไมเคิล แบรดลี่ย์, คลินท์ เดมป์ซี่ย์, แลนดอน โดโนแวน, โจซี่ อัลติดอร์, ร็อบบี้ ฟินด์ลี่ย์
โรเบิร์ต กรีน (Robert Green) กับภาพชุดสุดประทับใจแฟนบอลมะกัน...!

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/31933.html
แท็ก : england, usa, World Cup, ฟุตบอล, ฟุตบอลโลก, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ

รายการบล็อกของฉัน