วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ผลบอล : ปลุกบอลโลกคึกคัก!เยอรมันหักแข้งจิงโจ้4-0

ผลบอล : ปลุกบอลโลกคึกคัก!เยอรมันหักแข้งจิงโจ้4-0
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก นัดแรก กลุ่มดี
เยอรมัน 4 – ออสเตรเลีย 0

เยอรมัน ลงประเดิมสนาม ฟุตบอลโลก 2010 ด้วยการส่งนักเตะสายเลือดใหม่ลงเยอะมาก เพื่อเน้นความสด โดยมีเพียง มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าวัย 32 ลงประคองรุ่นน้อง ส่วนฟิลิปป์ ลาห์ม รับหน้าที่กัปตันทีมแทน มิชาเอล บัลลัค ที่ถอนตัวเพราะอาการบาดเจ็บไปก่อนหน้านี้ ด้านทีมชาติ ออสเตรเลีย เกมนี้ พิม เวอร์บีค มาในระบบ 4-4-1-1 โดยเน้นกลางรับ 2 รายเพื่อช่วยตัดเกม
แต่เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที ออสเตรเลีย เกือบเป็นฝ่ายทำช็อก ออกนำก่อนจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมทางขวา ทิม เคฮิลล์ เทคตัวขึ้นโขกมาโดนเพื่อนร่วมทีมตรงหน้าปากประตู ก่อนที่บอลจะกระดอนมาที่ ริชาร์ด การ์เซีย เอี้ยวตัววอลเลย์จากระยะ 10 หลา ดีที่มานูเอล นอยเออร์ ถลาออกมาปิดมุมเร็ว

โดนทักทายไปแบบนี้ เยอรมัน เดินเกมลุยทันที และพอมาถึงนาทีที่ 8 เยอรมัน ก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะเช็กล้ำหน้าพลาด บอลมาถึง โธมัส มุลเลอร์ ทางกราบขวา ก่อนจะเปิดหักผ่านหน้าประตูไปซ้ายสุดให้ ลูคัส โพดอลสกี้ วิ่งมาตะบันเต็มข้อติดไซด์ก้อย แม้ มาร์ค ชวาร์เซอร์ พยายามปัด แต่ด้วยความแรงทำให้บอลพุ่งเข้าไปกระทบก้นตาข่าย 1-0

พอได้ประตูนำ เยอรมัน เริ่มได้ใจเดินเกมต่อเนื่อง แต่ก็ยังหาโอกาสเข้าไปทำประตูแบบเน้นๆไม่ได้ จนนาทีที่ 20 ออสเตรเลีย มาได้ลุ้นบ้างเมื่อ เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ดีดให้ ริชาร์ด การ์เซีย ได้ซัดแต่จังหวะยิงเร่งเกินไป เนื่องจากแนวรับ “อินทรีเหล็ก” กรูเข้ามา ทำให้บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป

นาทีที่ 23 เยอรมัน ที่ทำเกมได้วูบวาบมาได้ลุ้นอีกจาก โธมัส มุลเลอร์ ขึ้นเกมมาทางขวา ก่อนจะผ่านเข้ามาที่เสาแรกกะให้ ลูคัส โพดอลสกี้ เข้าชาร์จแต่เข้าไม่ถึง ขณะที่นาทีต่อมา “ปรินซ์โพลดี้” ได้จังหวะหลุดขึ้นมาด้านซ้าย ก่อนจะไหลให้ โคลเซ่ วิ่งเข้ามาชาร์จระยะ 12 หลา แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น

อย่างไรก็ตาม พอเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 26 ก็เป็น เยอรมัน มาได้ประตูเพิ่มจนได้ จากจังหวะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม ขึ้นเกมรุกมาทางขวา ก่อนจะวางยาวมาในเขตโทษให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โฉบเข้าโขกตัดหน้า มาร์ค ชวาร์เซอร์ เข้าไป 2-0

เยอรมัน คึกจริงๆ นาทีที่ 31 “อินทรีเหล็ก” เกือบได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล สลัดกับดักล้ำหน้าไปทางขวา ก่อนจะได้หลุดไปเผชิญหน้ากับ ชวาร์เซอร์ โดยที่จังหวะสุดท้ายมิดฟิลด์จาก เบรเมน ตัดสินใจดีดด้วยซ้ายสวนตัวนายทวารออสซี่ไปแล้ว ยังดีที่ลูคัส นีลล์ กัปตันทีมที่ยืนห้อยอยู่วิ่งมาช่วยเคลียร์ได้ทัน ก่อนที่บอลจะสปินเข้าหาประตู

นาทีที่ 39 ลาห์ม ที่เกมนี้เติมเกมขึ้นมาสวยๆหลายหน ได้เปิดบอลให้ เคดิร่า ได้โหม่ง แต่บอลข้ามคานไป ก่อนที่ช่วงที่เหลือในครึ่งแรก ทั้งสองทีมจะทำอะไรไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก เยอรมัน นำ 2-0 ด้วยรูปเกมที่เร้าใจ

มาต่อครึ่งหลัง ออสเตรเลีย แก้เกมด้วยการส่ง เบร็ตต์ โฮลมัน มาแทน เกรลล่า เพื่อหวังเพิ่มมิติในเกมรุก นาทีที่ 51 เป็น โฮลมัน ตัวสำรอง ได้ส่องไกลนอกเขตโทษ แต่บอลหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 54 โธมัส มุลเลอร์ ได้โอกาสสับไกบ้าง หลังจาก โคลเซ่ ไหลย้อนคืนมาให้ แต่บอลเหินข้ามคานไปไม่ไกล ถัดมา 2 นาที ออสเตรเลีย ที่ตามหลังอยู่ต้องมาเสียเปรียบมากขึ้นไปอีก เมื่อทิม เคฮิลล์ กองกลางตัวเก่งมาโดนใบแดงจากจังหวะไถลตัวเข้าขวาง ชไวน์สไตเกอร์ ทางด้านหลัง ซึ่งจากภาพช้าเหมือนกับมิดฟิลด์ เอฟเวอร์ตัน จะเสียจังหวะที่ปะทะกับ โพดอลสกี้ ก่อนหน้านี้ “ออสซี่” เหลือ 10 คน

พอตัวผู้เล่นมากกว่า เยอรมัน ชักเหิมเกริมหนักขึ้นไปอีก โดยเป็น โอซิล มีจังหวะจบสกอร์ แต่ไม่ผ่านมือ ชวาร์เซอร์ ถัดมานาทีเดียว โคลเซ่ ได้จังหวะหลุดขึ้นไปอีก แต่จังหวะยิงไปติดเซฟ ชวาร์เซอร์ ที่ออกมาเร็ว แต่บอลยังกระฉอกกลับมาที่ โคลเซ่ อีกครั้งได้ผ่านขวางเร็วเข้ามาให้ เคดิร่า ทว่าดาวรุ่งจากสตุ๊ตการ์ทไม่ทันตั้งตัว ทำให้บอลไหลผ่านหน้าไป

จากนั้น แข้งออสเตรเลียเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น และเริ่มมาชวนทะเลาะด้วยจังหวะตัดเกมหนัก นาทีที่ 64 ลูคาวีทยา ได้ลงมาแทนริชาร์ด การ์เซีย เพื่อปรับแท็คติก แต่อีก 4 นาทีต่อมา โพดอลสกี้ ก็มาสร้างจังหวะให้ เยอรมัน เมื่อได้บอลระยะ 25 หลา ก่อนจะลากเจาะตรงกลาง แล้วไหลต่อให้ มุลเลอร์ ในระยะ 18 หลา ก่อนที่กองหน้าดาวรุ่งจาก บาเยิร์น จะดึงจังหวะล็อกหนึ่งครั้ง แล้วตะบันเต็มข้อด้วยขวา ส่งบอลเช็ดเสาเข้าไป 3-0

พอได้ประตูที่สาม เยอรมัน ถอดเอา โคลเซ่ มาพัก แล้วส่ง คาเคา ลงไป และเพียงไม่ถึง 3 นาทีที่ลงสนาม คาเคา ก็มาแผลงฤทธิ์ทันที เมื่อบาดสตูเบอร์ ไหลขึ้นมาที่ว่างฝั่งซ้ายให้ โอซิล ควบไปเอา ก่อนที่มิดฟิลด์ร่างเล็ก จะตวัดเข้ามาตรงกลางให้กองหน้าผิวสีจากสตุ๊ตการ์ทชาร์จเหน่งๆ 4-0 ทั้งที่เป็นสัมผัสที่ 2 ของ คาเคา ในเกมนี้..!

นาทีที่ 74 โยอาคิม เลิฟ เพิ่มเกมรุกลงไปอีกโดยถอด โอซิล ออกมา และส่ง มาริโอ โกเมซ ลงไป หวังให้กองหน้าร่างโย่งจาก “เสือใต้” เค้นฟอร์ม ขณะเดียวกัน เวอรืบีค ก็ส่ง เยดินัค ลงมาแทน เอเมอร์ตัน

ท้ายเกม เยอรมัน ยังบุกอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถอด โพดอลสกี้ ออกมาพัก แล้วให้ มาร์โก มาริน อีกหนึ่งตัวจี๊ดลงสนามไปในนาทีที่ 82 และเพียงโอกาสแรกที่สัมผัสบอล มาริน ก็ได้โอกาสลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้าไปยิง แต่จังหวะยิงบดเกินไป เข้าซอง ชวาร์เซอร์

ช่วงเวลาที่เหลือ “อินทรีเหล็ก” ยังไม่เพลาเครื่อง ขณะที่แข้งออสซี่ ก็ต้านทานไว้ด้วยศักดิ์ศรี และไม่มีประตูเพิ่มในเกมนี้ ทำให้หมดเวลา 90 นาที เยอรมัน โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ไล่ถลุง ออสเตรเลีย ไปอย่างเหี้ยมเกรียม 4-0 และเป็นการปลุก ฟุตบอลโลก 2010 ให้ตื่นด้วย หลังจาก 7 คู่ที่แข่งขันก่อนหน้านี้ยิงกันแบบเคอะเขินมีประตูเกิดขึ้นเพียง 9 ประตูเท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, อาร์เน่ ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี่ เคดิร่า, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, ลูคัส โพดอลสกี้, มิโรสลาฟ โคลเซ่

ออสเตรเลีย : มาร์ค ชวาร์เซอร์, ลุค วิลเชียร์, ลูคัส นีลล์, เคร็ก มัวร์, สก็อตต์ ชิปเปอร์ฟิลด์, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, วินซ์ เกรลล่า, เจสัน คูลิน่า, คาร์ล วาเลรี่, ทิม เคฮิลล์, ริชาร์ด การ์เซีย

ที่มา http://sport.mthai.com/worldcup2010-football/32077.html

รายการบล็อกของฉัน